วปอ.63 เดินหน้าสร้างพื้นที่สีเขียว สานต่อกิจกรรมตอบแทนแผ่นดินเกิด ลดโลกร้อน และสร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบ ด้วยโครงการ “ปลูกป่า ปลูกอาชีพ กับ วปอ.63” คืนผืนป่าให้กับประเทศไทยเพิ่มเติมอีก 40 ไร่ จำนวนต้นไม้กว่า 3,000 ต้น
นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 63 (วปอ.63) นำทีมปลูกป่าจำนวน 40 ไร่ ในรูปแบบการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูสภาพป่า พลิกฟื้นคืนชีวิตให้ป่าเสื่อมโทรม เพิ่มพื้นที่สีเขียว และสร้างแหล่งอาหาร สร้างอาชีพเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชน โดยการปลูกกล้าไม้วงศ์ยางที่ใส่เชื้อเห็ดป่า นำไปสู่ความยั่งยืนในการอนุรักษ์ป่าไม้ในพื้นที่ ณ ศูนย์วนวัฒนวิจัยที่ 6 (นครราชสีมา) ในสังกัดส่วนวนวัฒนวิจัย สำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ กรมป่าไม้
กิจกรรม “ปลูกป่า ปลูกอาชีพ กับ วปอ.63” ครั้งนี้ นำโดย พลตรี นนธวัฒน์ ภักดิพงศ์พิชญะ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ประธานโครงการ พลตรี สาละวิน อุทรักษ์ รองผู้อำนวยการสำนักการข่าว สำนักงานปฏิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายใน กองทัพบก อดีตประธานรุ่น และประสานงานโครงการโดย นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด
ภายในงานได้รับเกียรติจาก ดร.คงศักดิ์ มีแก้ว ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยการป่าไม้ ผู้แทนอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานในพิธี และได้รับความร่วมมือจากกรมป่าไม้ นำทีมโดย นายดุริยะ สถาพร นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าศูนย์วนวัฒนวิจัยที่ 6 (นครราชสีมา) ชมรมรถขับเคลื่อนสี่ล้อกลุ่มกระทิงโทน โรงเรียนในพื้นที่ สื่อมวลชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันปลูกป่าพลิกฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ ณ ศูนย์วนวัฒนวิจัยที่ 6 (นครราชสีมา) ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมารวมถึงได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากหลายภาคส่วน ได้แก่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), นายณรงค์วิทย์ อุ่นแสงจันทร์และนายรังสรรค์ ตุลชีวิน หมู่ช้าง วปอ.63, นายขจิตภูมิ สุดศก หมู่กวาง วปอ.63, บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฟู้ดสตาร์ จำกัด, ฟิล์มกรองแสงลามิน่า โดย บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด และสำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการ ทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย
โครงการ “ปลูกป่า ปลูกอาชีพ กับวปอ.63” ได้น้อมนำศาสตร์พระราชาเกี่ยวกับการฟื้นฟูสภาพป่าและสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้ ในการรักษาสภาพทางนิเวศวิทยาสิ่งแวดล้อม ด้วยความตั้งใจที่จะปลุกจิตสำนึกให้เกิดความรักสิ่งแวดล้อม เกิดความหวงแหนและเล็งเห็นความสำคัญของต้นไม้ที่มีต่อสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตของมนุษย์ ตลอดจนส่งเสริมการดูแลรักษาป่าผ่านเครือข่ายชุมชนอย่างยั่งยืน
กล้าไม้ที่ใช้ในโครงการเพื่อปลูกป่าพลิกฟื้นคืนชีวิตให้ป่าเสื่อมโทรมกว่า 40 ไร่นี้ ประกอบด้วย ยางนา ตะเคียนทอง และพยอม รวมกว่า 3,000 ต้น ซึ่งกล้าไม้ทุกต้นได้ใส่เชื้อเห็ดป่าเรียบร้อยแล้ว ทำให้มีอัตราการเติบโตจะดีกว่ากล้าไม้ที่ไม่ใส่เชื้อเห็ดเกือบสองเท่า และเมื่อปลูกลงพื้นที่จะเกิดเป็นแปลงเพาะเห็ดธรรมชาติตามมา กลายเป็นแหล่งอาหาร สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้ชุมชนโดยรอบ
นอกจากนี้ ยังได้มอบเงินเพื่อสนับสนุนการดูแลผืนป่าดังกล่าวอย่างต่อเนื่องอีก 2 ปี เพื่อบำรุงรักษาต้นไม้ในโครงการให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป ซึ่งการปลูกป่าในโครงการนี้มีอัตรารอดและเติบโตมากกว่า 95% นอกเหนือจากการคืนผืนป่าให้กับประเทศไทยแล้วยังได้มีโอกาสทำให้บริเวณนี้เป็นแหล่งอาหารสัตว์ป่าที่อุดมสมบูรณ์อีกด้วย