หนึ่งในความสุขของคนรักงานศิลปะ นักสะสม และคนที่หลงใหลการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ทั่วโลกชื่นชอบเป็นอย่างมาก คือการเลือกซื้อของที่ระลึกจาก Souvenir Shop ของพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ เช่นเดียวกับ ๙ ของที่ระลึกจากพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ณ หอรัษฎากรพิพัฒน์ในพระบรมมหาราชวัง ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก นิทรรศการผ้าบาติกในพระปิยะมหาราช: สายสัมพันธ์สยามและชวา ผ่านการนำลวดลายอันสวยงามอ่อนช้อยและมีเอกลักษณ์จากผ้าบาติกทรงสะสมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ มาออกแบบเป็นของที่ระลึกดีไซน์เรียบหรูไม่เหมือนใคร ให้คุณครอบครองงานศิลป์ที่เสริมเสน่ห์ให้กับผู้ใช้และสร้างความประทับใจให้กับผู้รับ ทั้งยังเปี่ยมด้วยความหมายมงคลและสะท้อนความเป็นคนรักงานศิลปะได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ของที่ระลึกที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติคือ ผ้าเช็ดแว่นไมโครไฟเบอร์ มาพร้อมคุณสมบัติในการทำความสะอาดแว่นตา เลนส์กล้อง และมือถือ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนและความเสียหาย คอลเล็กชั่นนี้มีให้เลือก ๖ ลวดลาย ที่ได้แรงบันดาลใจจากผ้าบาติก ๑. โกตัก เซริบู ลายตารางสี่เหลี่ยมบนผืนผ้า แต่ละช่องตกแต่งด้วยลวดลายแบบจีนล้อมรอบด้วยประแจจีน ๒. ปารัง ปิตัง จากโรงเขียนผ้าของนางแวน ลาริก แวน แพบสต์ พัฒนามาจากลายปารัง รือสัก มาจาก ‘เกปิตัง’ หมายถึง ‘ปู’
ชาวจีนเชื่อว่า ปูเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ ความสำเร็จ และฐานะที่สูงส่ง ๓. สิริกิติ์ ลายที่ได้รับการออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเพื่อสื่อถึงพระสิริโฉมและพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ ๔. ปาสแรน ลายที่สะท้อนวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นอย่าง ‘แม่โพสพ’ หรือ ‘เทพีแห่งข้าว’ สื่อถึงการคุ้มครองป้องกัน ๕. บัง บิรู อูงัน ลายที่ได้แรงบันดาลใจจากคติความเชื่อเรื่องสัตว์มงคลของชาวจีน อาทิ ปลาคาร์ปกระโดดข้ามประตูมังกร นกฟินิกซ์คู่ ไก่ฟ้า ผีเสื้อ และกิเลน ๖. ผ้านุ่ง (โสร่ง) จากเมืองลาเซ็ม งดงามด้วยลวดลายพรรณพฤกษา นก ผีเสื้อ แจกันดอกไม้ และโคมไฟระย้าจากกิ่งไม้ (ราคา ๖๐ บาท)
คนที่หลงใหลเครื่องประดับดีไซน์เรียบหรู สามารถจับคู่ mix & match กับทุกสไตล์การแต่งตัว และสวมใส่ได้ทุกโอกาส จะมีสิ่งใดดีไปกว่าสร้อยคอและต่างหูคอลเล็กชั่นนี้ ที่ได้แรงบันดาลใจจากผ้าบาติกลาย ลิมาร์ เกดาตน แห่งโรงเขียนผ้าของนางแวน ลาริก แวน แพบสต์ (เมืองยอกยาการ์ตา) หนึ่งในลายโบราณตระกูลชินเดน โดยคำว่า ‘เกดาตน’ หมายถึงที่พักของเจ้าผู้ครองเมือง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองของแต่ละเมือง ประกอบด้วยลายดาวสี่แฉกล้อมรอบด้วย ‘ลิมาร์’ (สี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด) ด้านบนและล่างเป็นลายคล้ายรัศมีบ่งบอกถึง อำนาจและบารมีที่แผ่กระจายออกไปไม่มีสิ้นสุด (สร้อย ราคา ๑,๕๐๐ บาท ต่างหู (ล่างสุด) ราคา ๑,๒๐๐ บาท ต่างหู (ตรงกลาง) ราคา ๘๕๐ บาท และต่างหู (บนสุด) ราคา ๗๙๐ บาท)
หนึ่งในของที่ระลึกคอลเล็กชั่นใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากผ้านุ่ง (กายน์ ปันจัง) ลายปารัง เคมบัง แห่งโรงเขียนผ้าของนางแวน ลาวิก แวน แพบสต์ นำมาดีไซน์เป็นลวดลายบนกระเป๋าสะพายทรง Hobo Bag กระเป๋าผ้าสำหรับเดินทาง (มีให้เลือก ๒ ขนาด ราคา ๕๐๐ และ ๖๐๐ บาท) กระเป๋าเงิน (ราคา ๙๐๐ บาท) กระเป๋าใส่เหรียญ
(ราคา ๕๕๐ บาท) และหมวกแก๊ป (ราคา ๔๐๐ บาท) ลายปารัง เคมบัง พัฒนามาจากลายปารัง บาลาเดวา ซึ่งเป็นลายดั้งเดิมของชวากลางผสมผสานกับลายปารัง อูเกล แห่งเมืองจิเรบอน โดย ‘อูเกล’ คือส่วนปลายเถาที่ม้วนเป็นเกลียวเล็ก ๆ เพื่อช่วยในการเกี่ยวรัดกับวัตถุต่างๆ ส่วน ‘เคมบัง’ หมายถึงดอกไม้หรือเครื่องประดับ เปรียบเหมือนความอ่อนช้อยของเถาไม้ที่เลื้อยทอดยอด
เอาใจสายแฟชั่นนิสต้าและคนที่มองหากระเป๋าสะพายพู่ดีไซน์หรูไม่ซ้ำใคร ด้วยกระเป๋าสะพายคอลเล็กชั่นใหม่มีให้เลือก ๒ ลวดลาย ที่ได้แรงบันดาลใจจากผ้านุ่ง (กายน์ ปันจัง) ลายปารัง ปิตัง จากโรงเขียนผ้าของนางแวน ลาวิก แวน แพบสต์ กลุ่มลายปารังเป็นลวดลายที่ได้รับความนิยมอย่างมากในแถบชวากลางมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังมีลวดลายมงคลของ ‘ปู’ สัตว์มงคลตามความเชื่อของชาวจีนสื่อถึงอำนาจบารมี และ ลายเซเมน จากเมืองสุราการ์ตา เขตปกครองพิเศษมังกุเนการัน หนึ่งในกลุ่มลายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และได้รับความนิยมอย่างมากในพื้นที่ชวากลางบริเวณเมืองยอกยาการ์ตาและเมืองสุราการ์ตา ผ้าบาติกจากราชสำนักมังกุเนการันจะเน้นการใช้สีน้ำตาลและสีครีมบนพื้นสีน้ำเงินเข้ม มีลายนกคู่ขนาดใหญ่กางปีกกว้างอยู่ท่ามกลางพื้นหลังที่เป็นลายพรรณพฤกษา นกตัวเล็ก ๆ บินวนอยู่ด้านบน และครุฑสวมมงกุฎยืนอยู่ทั้งสองข้าง (ราคา ๒,๒๐๐ บาท)
ของแต่งบ้านดีไซน์สวยเพิ่มเสน่ห์ให้มุมสบายกลายเป็นมุมพักผ่อนสุดโปรดสำหรับครอบครัว พร้อมส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ผู้มาเยือนประทับใจ ด้วยปลอกหมอน ๒ ลายที่ได้แรงบันดาลใจจากผ้าโพกศีรษะ (อิแกต เคพาลา)
ลายโมดัง แห่งเมืองยอกยาการ์ตา ซึ่งเป็นลวดลายที่มีลักษณะคล้ายเปลวเพลิงล้อมรอบบริเวณขอบผ้า และผ้าโพกศีรษะ (อิแกต เคพาลา) ที่ได้รับการสันนิษฐานว่ามาจากเมืองจิเรบอน บริเวณชายฝั่งตอนเหนือของชวา หนึ่งในลวดลายที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเมืองจัมบี จึงนิยมเรีกว่า ‘บาติก จัมบี’ (หมอนทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสใหญ่ ราคา ๑,๘๐๐ บาท และหมอนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็ก ราคา ๑,๒๐๐ บาท)
เก็บทุกความทรงจำไว้ในภายถ่ายและกรอบรูปที่ได้แรงบันดาลใจจากผ้าบาติก ๓ ลวดลาย ได้แก่ ๑. ลายสิริกิติ์ ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อครั้งโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปทรงเยือนสาธารณรัฐอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ในสมัยของประธานาธิบดีซูกาโน ๒. ลายผ้านุ่ง (โสร่ง) จากโรงเขียนผ้าของนางแคโรลินา โจเซฟิน วอน แฟรงเคอมองต์ แห่งเมืองเซมารัง สื่อถึงความเชื่อเรื่องการสร้างมนุษย์และสวนอีเดนในคริสต์ศาสนาอย่าง ‘ลายเถาองุ่นและงู’ ผสมผสานกับความเชื่อของชาวจีนผ่านลาย ‘ผีเสื้อ’ สื่อถึงความรักและความยั่งยืน รวมถึง ‘ตะขาบ’ สื่อถึงการปกป้องคุ้มครองผู้สวมใส่ และ ๓. ลายปารัง เคมบัง จากโรงเขียนผ้าของนางแวน ลาวิก แวน แพบสต์ แห่งเมืองยอกยาการ์ตา พัฒนามาจากลายปารัง บาลาเดวา ซึ่งเป็นลวดลายดั้งเดิมของชวากลาง ผสมผสานกับลายปารัง อูเกล แห่งเมืองจิเรบอน
– กรอบรูปลายสิริกิติ์ และปารัง เคมบัง ขนาด ๕ x ๗ ราคา ๖๕๐ บาท และ ๓ x ๓ ราคา ๔๕๐ บาท
– กรอบรูปสีแดง ขนาด ๕ x ๗ ราคา ๗๙๐ บาท และ ๔ x ๖ ราคา ๗๙๐ บาท
เครื่องประดับดีไซน์เก๋เอาใจคนที่หลงใหลวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นด้วยต่างหูพัดที่ได้แรงบันดาลใจจากผ้า ลายมิกาโด แห่งเมืองยอกยาการ์ตา โดยศิลปะแบบญี่ปุ่นเริ่มข้ามามีบทบาทในเกาะชวาตั้งแต่ช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ ส่วนบริเวณพื้นหลังของผ้าช่างได้เขียนลายกาวุง (Kawung) ซึ่งเป็นลวดลายดั้งเดิมของชวากลาง และบริเวณหัวผ้าเขียนลายพัดญี่ปุ่นสลับกับลายพรรณพฤกษาได้อย่างประณีตงดงาม ช่วยเสริมเสน่ห์ให้ผู้สวมใส่ดูมีสไตล์และสนุกกับการ mix & match เข้ากับการแต่งตัวได้หลายรูปแบบ (ราคา ๓๘๐ บาท)
เสริมคาแร็กเตอร์ให้หนุ่ม ๆ ดูมีความเป็นสุภาพบุรุษด้วยคัฟลิงค์ (Cufflinks) หรือกระดุมข้อมือดีไซน์หรู ที่ได้แรงบันดาลใจจาก ลายสิโดลูฮูร์ แห่งเมืองสุราการ์ตา เดิมชื่อลายสิดาโลวูร์ (Sidalowoor) สื่อถึงความมีเกียรติยศและคุณค่า ผ่านลวดลายต้นไม้แห่งชีวิตที่มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายดอกบัวและลายเถา สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแบบอาร์ตนูโว โดยลายสิโด (Sido) นิยมนำมาสวมใส่ในพิธีแต่งงานและงานมงคลอื่น ๆ รวมถึงใช้นุ่งในพิธีรดน้ำหรือพิธีอาบน้ำก่อนเข้าพิธีสำคัญ (ราคา ๑,๑๐๐ บาท)
สำหรับนักสะสม คนรักประวัติศาสตร์ และคนที่หลงใหลผืนผ้าโบราณ การได้ครอบครองหนังสือ ‘ผ้าบาติกในพระปิยะมหาราช สายสัมพันธ์สยามและชวา’ ถือเป็นหนึ่งในของที่ระลึกที่ควรค่าแห่งการเก็บสะสม รวบรวมทุกเรื่องราวของผ้าบาติกทรงสะสมกว่า ๓๐๐ ผืนไว้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งลวดลายบนปกหนังสือยังได้แรงบันดาลใจจากผ้าโพกศีรษะ (อิแกต เคพาลา) ลายกาบา สินาวูร์ จากโรงเขียนผ้าของนางแวน ลาวิก แวน แพบสต์ จะเห็นได้จากบริเวณจุดกึ่งกลางของผ้าเป็นรูปสี่เหลี่ยมสีเขียวหมายถึง ‘ทะเลสาป’ ล้อมรอบด้วยลายคล้ายเมล็ดข้าว (กาบา สินาวูร์) สื่อความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ของชีวิต (ปกแข็ง ราคา ๓,๕๐๐ บาท และปกอ่อน ราคา ๒,๘๐๐ บาท)
ผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อของที่ระลึก พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ “ผ้าบาติกในพระปิยะมหาราช: สายสัมพันธ์สยามและชวา” ได้ที่ห้องจัดแสดง ๓-๔ ณ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนินีนาถ ในพระบรมมหาราชวัง (วัดพระแก้ว) เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา ๙.๐๐-๑๖.๓๐ น. ปิดจำหน่ายบัตรเวลา ๑๕.๓๐ น.