ปตท.เปิดเผยผลการวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 6-10 มิ.ย. 65 และแนวโน้ม 13-17 มิ.ย. 65 โดยตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเบรนท์ (ICE Brent) ราคา 121.75 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +3.57 ตลาดน้ำมันสำเร็จรูป เวสท์เท็กซัสฯ (NYMEX WTI) ราคา 120.44 เหรียญต่อบาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +4.02 เหรียญ สหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปดูไบ (Dubai) ราคา 117.08 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +4.31 เหรียญ สหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปซื้อซื้อขายล่วงหน้าประเทศสิงคโปร์ ราคาเบนซินออกเทน 95 ปรับราคาเพิ่มขึ้น +2.49เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 156.61 เหรียญ สหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ราคาน้ำมันดีเซลราคาปรับราคาเพิ่มขึ้น +10.20เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 176.59 เหรียญสหรัฐฯต่อ บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ล่าสุดเพิ่มขึ้น โดยตลาดวิตกต่ออุปทานในตลาดโลกมีแนวโน้มตึงตัว หลังอุปสงค์น้ำมันจากสหรัฐฯ ส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับโอกาสที่อิหร่านจะกลับมาส่งออกน้ำมันลดลง หลังจากแสดงท่าทีแข็งกร้าวในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ อาทิ ประกาศจะรื้ออุปกรณ์ตรวจสอบการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมทั้งหมด ซึ่งทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency: IAEA) มาติดตั้ง รวมถึงกล้องวงจรปิด จำนวน 27 ตัว และเริ่มติดตั้งเครื่องเสริมสมรรถนะยูเรเนียมจากการหมุนเหวี่ยง (Centrifuge) ซึ่งก้าวหน้ากว่าเดิม ในกลุ่มเครือข่าย (Cluster) โรงงานใต้ดิน และมีแผนจะติดตั้งระบบกล่าวเพิ่มอีก
จับตาประเทศจีน ซึ่งกลับมาประกาศใช้มาตรการ Lockdown บางส่วนในเมือง Shanghai อีกทั้งความไม่สงบในลิเบีย หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงปิดแหล่งผลิตน้ำมัน Sarir (200,000 บาร์เรลต่อวัน) รวมถึงท่าส่งออก Ras Lanuf (200,000 บาร์เรลต่อวัน) และ Es Sider (350,000 บาร์เรลต่อวัน) ตั้งแต่ 9 มิ.ย. 65 และมีแผนจะปิดล้อมท่า Hariga (140,000 บาร์เรลต่อวัน) เพิ่มเติม หากยืดเยื้อจะทำให้ลิเบียผลิตและส่งออกน้ำมันลดลง ทั้งนี้ลิเบียผลิตน้ำมันดิบในเดือน พ.ค. 65 อยู่ที่ 780,000 บาร์เรลต่อวัน
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
- EIA รายงานโรงกลั่นสหรัฐฯ นำน้ำมันดิบเข้ากลั่น ในสัปดาห์สิ้นสุด 3 มิ.ย. 65 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 354,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 16.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดตั้งแต่ ม.ค. 2563 และอัตราการใช้กำลังการกลั่น (Utilization) เพิ่มขึ้น 1.6% อยู่ที่ 94.2% สูงสุดตั้งแต่ ธ.ค. 2562 ขณะที่ปริมาณสำรองน้ำมันในคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) ลดลง 7.3 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 519.3 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดตั้งแต่ มี.ค. 2530
- Board of Governors ของ IAEA ประกอบด้วยตัวแทนจาก 35 ชาติ ลงมติตำหนิอิหร่านตามร่างที่เสนอโดยสหรัฐฯ ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนี เนื่องจากอิหร่านไม่ให้ความร่วมมือในการอธิบายร่องรอยยูเรเนียมที่ตรวจพบใน 3 พื้นที่
- รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ Suhail al-Mazrouei เห็นว่าความพยายามของกลุ่ม OPEC+ ในการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันนั้น “ไม่ดีนัก” โดยจากรายงานเดือน พ.ค. 65 ยังต่ำกว่าเป้าหมาย 2.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน (Platts รายงานเป้าหมายการผลิตเดือน เม.ย. 65 อยู่ที่ระดับ 39.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน)
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
- Reuters รายงานรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาอนุญาตให้บริษัท Eni ของอิตาลี และบริษัท Repsol ของสเปน สามารถนำเข้าน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา ในลักษณะ Oil-for-loan ในเดือน ก.ค. 65 เพื่อชดเชยอุปทานจากรัสเซียที่หายไปเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป ทั้งนี้เวเนซุเอลาผลิตน้ำมันดิบในเดือน พ.ค. 65 อยู่ที่ 720,000 บาร์เรลต่อวัน
- ธนาคารโลก (World Bank) ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของโลก ในปี 2565 อยู่ที่ +2.9% จากปีก่อน ลดลง 1.2% จากคาดการณ์ในเดือน ม.ค. 65 โดยเศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่สภาวะ Stagflation ซึ่งเศรษฐกิจชะลอตัวขณะที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น