33.1 C
Bangkok
Thursday, March 13, 2025
163732
163732
previous arrow
next arrow

ตลาดรถยนต์เดือนเมษา’67 ชะลอตัว ยอดขาย 46,738 คัน ลดลง 21.5%

ภาพรวมตลาดรถยนต์เมืองไทยประจำเดือนเมษายน 2567 สะดุดยอดขายชะลอตัวด้วยปริมาณทั้งสิ้น 46,738 คัน ลดลง 21.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า รถกระบะและรถเพื่อการพาณิชย์หดตัวสูงสุด ขณะที่กลุ่ม HEV มาแรง เติบโตขึ้น 56% ซึ่งเกิดจากปัจจัยด้านพลังงานเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว แถมไฟแนนซ์เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ คาดตลาดในเดือนพฤษภาคม 2567 มีแนวโน้มดีกว่าเมษายน

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนเมษายน 2567 ยอดขายตลาดรวม 46,738 คัน ลดลง 21.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 17,288 คัน ลดลง 14.4% ขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 29,450 คัน ลดลง 25.1% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 17,689 คัน ลดลงถึง 34%  

ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน 2567 มียอดขาย 46,738 คัน ลดลง 21.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กลุ่มตลาดรถยนต์นั่งมีการชะลอตัวที่ 14.4% ด้วยยอดขาย 17,288 คัน ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวเช่นกันที่ 25.1% ด้วยยอดขาย 29,450 คัน และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ชะลอตัวลงมากที่สุด ด้วยยอดขาย 17,689 คัน ลดลงถึง 34% ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งหมด 15,161 คัน คิดเป็นสัดส่วน 32.4% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด เติบโตขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดขายรถยนต์ HEV เติบโตขึ้น 56% ด้วยยอดขาย 10,208 คัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ BEV อยู่ที่ 4,282 คัน ลดลง 4%

ตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคม 2567 มีแนวโน้มจะดีขึ้นจากเดือนเมษายน แต่ยังคงลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นผลมาจากเศรษฐกิจโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงฟื้นตัวช้า

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนเมษายน 2567

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย  46,738 คัน ลดลง 21.5 %

อันดับที่ 1 โตโยต้า 19,422 คัน ลดลง 0.7 % ส่วนแบ่งตลาด 41.6%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,856 คัน ลดลง 48.6% ส่วนแบ่งตลาด 14.7%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 5,743 คัน ลดลง 10.4% ส่วนแบ่งตลาด 12.3%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 17,288 คัน ลดลง 14.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,500 คัน ลดลง 24.5% ส่วนแบ่งตลาด 31.8%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า 3,442  คัน ลดลง 9% ส่วนแบ่งตลาด 19.9%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,665 คัน เพิ่มขึ้น 10.8% ส่วนแบ่งตลาด  9.6%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 29,450 คัน ลดลง 25.1%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 13,922 คัน เพิ่มขึ้น 13.4% ส่วนแบ่งตลาด 47.3%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,856 คัน ลดลง 48.6% ส่วนแบ่งตลาด 23.3%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 2,301 คัน ลดลง 12.4% ส่วนแบ่งตลาด  7.8%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 17,689 คัน ลดลง 34%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 8,647 คัน ลดลง 15.6%nส่วนแบ่งตลาด 48.9%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 6,091 คัน ลดลง 48.7% ส่วนแบ่งตลาด 34.4%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,015 คัน ลดลง 29.8% ส่วนแบ่งตลาด 11.4%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 3,622 คัน

โตโยต้า 1,335 คัน – อีซูซุ 1,044 คัน – ฟอร์ด 1,012 คัน – มิตซูบิชิ 192 คัน – นิสสัน 39 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 14,067 คัน ลดลง 35.7%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,312 คัน ลดลง 12.4% ส่วนแบ่งตลาด 52%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,047 คัน ลดลง 50.5% ส่วนแบ่งตลาด 35.9%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,003 คัน ลดลง 50.6 % ส่วนแบ่งตลาด 7.1%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – เมษายน 2567

ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 210,494 คัน ลดลง 23.9%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 78,232 คัน ลดลง 17.4% ส่วนแบ่งตลาด 37.2%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 31,300 คัน ลดลง 48.3% ส่วนแบ่งตลาด 14.9%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 30,847 คัน ลดลง 4.7% ส่วนแบ่งตลาด 14.7%

ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย  82,903 คัน ลดลง 15.2%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 22,131 คัน ลดลง 37.4% ส่วนแบ่งตลาด 26.7%

อันดับที่ 2 ฮอนด้า 17,640 คัน ลดลง 18.2% ส่วนแบ่งตลาด 21.3%

อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 6,619 คัน ลดลง 1.5% ส่วนแบ่งตลาด   8%

ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 127,591 คัน ลดลง 28.7%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 56,101 คัน ลดลง 5.4% ส่วนแบ่งตลาด  44%

อันดับที่ 2 อีซูซุ  31,300 คัน ลดลง 48.3% ส่วนแบ่งตลาด 24.5%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า13,207 คัน เพิ่มขึ้น 22.3% ส่วนแบ่งตลาด  10.4%

ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 74,114  คัน ลดลง 42.2%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 33,895 คัน ลดลง 31.6% ส่วนแบ่งตลาด 45.7%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 27,572 คัน ลดลง 50.2% ส่วนแบ่งตลาด 37.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 7,946 คัน ลดลง 42.9% ส่วนแบ่งตลาด 10.7%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 13,436 คัน

โตโยต้า 4,983 คัน – อีซูซุ 4,212 คัน – ฟอร์ด 3,151 คัน – มิตซูบิชิ 924 คัน – นิสสัน 166 คัน

ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 60,678 คัน ลดลง 42.3%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 28,912 คัน ลดลง  29.3% ส่วนแบ่งตลาด 47.6%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 23,360 คัน ลดลง 50.9% ส่วนแบ่งตลาด 38.5%

อันดับที่ 3 ฟอร์ดv4,795 คัน ลดลง 49.6% ส่วนแบ่งตลาด  7.9%

Related Articles

[td_block_social_counter facebook="tagdiv" twitter="tagdivofficial" youtube="tagdiv" style="style8 td-social-boxed td-social-font-icons" tdc_css="eyJhbGwiOnsibWFyZ2luLWJvdHRvbSI6IjM4IiwiZGlzcGxheSI6IiJ9LCJwb3J0cmFpdCI6eyJtYXJnaW4tYm90dG9tIjoiMzAiLCJkaXNwbGF5IjoiIn0sInBvcnRyYWl0X21heF93aWR0aCI6MTAxOCwicG9ydHJhaXRfbWluX3dpZHRoIjo3Njh9" custom_title="Stay Connected" block_template_id="td_block_template_8" f_header_font_family="712" f_header_font_transform="uppercase" f_header_font_weight="500" f_header_font_size="17" border_color="#dd3333"]
- Advertisement -spot_img

Latest Articles