ปตท. เผยการวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดน้ำมัน สัปดาห์วันที่ 27 – 31 ม.ค. 68 และแนวโน้มสัปดาห์วันที่ 3 – 7 ก.พ. 68 โดยตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเบรนท์ (ICE Brent) ราคา 76.74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาลดลง -2.31 เหรียญสหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปของ เวสท์เท็กซัสฯ (NYMEX WTI) ราคา 72.96 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาลดลง -2.18 เหรียญสหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปดูไบ (Dubai) ราคา 80.91 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาลดลงเล็กน้อย -1.65 เหรียญ สหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปซื้อซื้อขายล่วงหน้าที่สิงคโปร์ ราคาเบนซินออกเทน 95 ปรับราคาลดลง +0.97 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 87.19 เหรียญ สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดีเซลราคาปรับราคาลดลง -1.65 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 93.06 เหรียญสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดิบลดลงหลังประธานาธิบดี Trump เปิดฉากสงครามการค้า
– 1 ก.พ. 68 ประธานาธิบดี Trump ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกชนิดจากเม็กซิโกและแคนาดา 25% ยกเว้นสินค้าประเภทพลังงานจากแคนาดาเก็บภาษี 10% มีผลวันที่ 4 ก.พ. 68 ในปี 2567 สหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันดิบจากแคนาดาอยู่ที่ 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน และเม็กซิโกอยู่ที่ 457,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีแคนาดา Justin Trudeau ตอบโต้ประกาศเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ อาทิ มูลค่ารวม 1.06 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ อาทิ ไวน์ เสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา มาอยู่ที่ 25% เช่นเดียว
– 29-30 ม.ค. 68 ที่ประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve: Fed) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.25-4.50% โดยประธาน Fed โดย Jerome Powell กล่าวว่าจะไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงตามเป้าหมายที่ 2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าและภาวะการจ้างงานแข็งแกร่ง
– Reuters รายงานประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ประกาศยืนยันเดินหน้าเติมคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 394 ล้านบาร์เรล ให้เต็มความจุที่ 714 ล้านบาร์เรล
