จีนลดนำเข้าน้ำมันดิบ กดราคาขายน้ำมันโลกปรับลด

ปตท. เผยผลการวิเคาระห์สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์วันที่ 11 – 15 ธ.ค. 66 และแนวโน้มสัปดาห์วันที่ 18-22 ธ.ค. 66 โดยตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเบรนท์ (ICE Brent) ราคา 75.34 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับลดลง -0.54 ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปของ เวสท์เท็กซัสฯ (NYMEX WTI) ราคา 70.48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับลดลง -0.58 เหรียฐสหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปดูไบ (Dubai) ราคา 75.01 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับลดลง -2.03 เหรียญ สหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปซื้อซื้อขายล่วงหน้าที่สิงคโปร์ ราคาเบนซินออกเทน 95 ปรับราคาลกลง -0.81 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 89.44 เหรียญ สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดีเซลราคาปรับราคาลดลง -1.10 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 97.98 เหรียญสหรัฐฯ

ราคาน้ำมันดิบลดลง จากจีนลดปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบ

* สำนักสถิติแห่งชาติของจีน (National Bureau of Statistics: NBS) รายงานโรงกลั่นนำน้ำมันดิบเข้ากลั่น (Throughput) ในเดือน พ.ย. 66 ลดลงจากเดือนก่อน 3.8% อยู่ที่ 14.55 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน

* รายงานฉบับเดือน ธ.ค. 66 ของทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency หรือ IEA) คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 101 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อน 4,000 บาร์เรลต่อวัน) และในปี 2567 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.34 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 102.34 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อน 10,000 บาร์เรลต่อวัน)

* สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (Energy Information Administration หรือ EIA) คาดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปี 2566 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.02 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 12.93 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ปรับเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดือน พ.ย. 66 663,000 บาร์เรลต่อวัน) และในปี 2567 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 180,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 13.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ปรับลดลง 40,000 บาร์เรลต่อวัน)

* 13 ธ.ค. 66 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve: Fed) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดและส่งสัญญาณยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งๆ ละ 0.25% ในปี 2567 ขณะที่เดียวกัน ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน 

* กองกำลังติดอาวุธ Houthi ในเยเมน โจมตีเรือขนส่งที่ใช้เส้นทางเดินเรือผ่านช่องแคบ Bab-el-Mandeb ในทะเลแดงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทเดินเรือรายใหญ่หลายแห่งประกาศระงับการใช้เส้นทางในทะเลแดง อาทิ Maersk ของประเทศเดนมาร์ก และ Hapag-Lloyd ของเยอรมนี