คอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) ผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านยางรถยนต์ระดับโลกจากเยอรมนี เปิดตัวยางรถยนต์สองรุ่นใหม่ล่าสุดภายใต้ Generation ที่ 7 ดึงจุดแข็งด้านเทคโนโลยีจากประเทศเยอรมนีมาผนวกกับความต้องการของผู้ใช้รถ เพื่อพัฒนายางรถยนต์รุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์รูปแบบของยานยนต์และการขับขี่ที่หลากหลาย ตอกย้ำจุดยืนของคอนติเนนทอลในแง่ของการเข้าใจตลาดยางรถยนต์ในปัจจุบัน และพร้อมยกระดับเทคโนโลยีการผลิตให้ทันสมัยอยู่เสมอ
มร. คาเรล คูเซรา (Mr. Karel Kucera) กรรมการผู้จัดการ คอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ภาพรวมของตลาดยางรถยนต์ในประเทศไทยนับว่ากำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยหนุนหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันจากรัฐบาลในการเพิ่มศักยภาพประเทศเพื่อรองรับการผลิต การเป็นห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญของภูมิภาค และการสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility Hub) ประกอบกับพฤติกรรมการขับขี่ของคนไทยที่มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา นอกจากนี้ คนไทยยังคำนึงถึงความปลอดภัยในการขับขี่และการโดยสารมากขึ้น โดยมักจะเลือกยางรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงและมีการใช้งานที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ ทางคอนติเนนทอลจึงนำเสนอยางรถยนต์ใหม่ล่าสุด 2 รุ่น ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมและสมรรถนะขั้นสูง ได้แก่ MaxContact MC7 และ eContact โดยเรามุ่งสร้างคุณค่าผ่านคุณภาพผลิตภัณฑ์และการบริการที่ดีเยี่ยม เพื่อมอบความมั่นใจในทุกการเดินทางให้กับลูกค้าทุกคน”
สำหรับยางรถยนต์สองรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ นำโดย “MaxContact MC7“ ยางรถยนต์ที่ชูนวัตกรรม Sport+ Technology ในกลุ่มยางสปอร์ตสมรรถนะสูง มอบความแม่นยำขณะเข้าโค้งบนพื้นถนนแห้งด้วยเทคโนโลยี Cornering Macro-blocks ที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสกับถนนได้กว้างขึ้น พร้อมกระจายแรงกดไปยังส่วนอื่น ๆ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและทำให้รถมีความเสถียรยิ่งขึ้น อีกทั้งเทคโนโลยี Stabilizer Bar ยังช่วยยึด Macro blocks ไว้อย่างแน่นหนา เพื่อให้สามารถทนต่อแรงกดดันเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบควบคุมการเบรกที่ยอดเยี่ยมบนพื้นถนนเปียก ด้วยร่องยาง 3 มิติที่ตัดด้วยเลเซอร์แบบ Star & Lightning และ Aquasipes ทำงานร่วมกันในการตัดผ่านฟิล์มน้ำจากหลายทิศทาง ทำให้น้ำระบายออกอย่างรวดเร็ว ไม่ให้เกิดการสูญเสียการยึดเกาะบนพื้นถนน
ยางรุ่น MaxContact MC7 ดีไซน์มาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนเอเชียที่มองหาการขับขี่ที่เร้าใจโดยเฉพาะ พร้อมมอบความมั่นใจในทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนท้องถนนหรือบนสนามแข่ง ปลอดภัยขณะขับขี่ด้วยเทคโนโลยี Reflex Compound เพิ่มการยึดเกาะสูงสุดและให้การควบคุมที่สม่ำเสมอ ทั้งยังลดเสียงรบกวนจากภายนอกโดยร่องยาง Noise Breaker 3.0 จะขัดขวางคลื่นเสียงและกระจายออกเป็นความถี่เล็ก ๆ เพื่อป้องกันเสียงรบกวนไม่ให้เดินทางเข้าไปในห้องโดยสาร
อีกหนึ่งยางรุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะอย่าง “eContact” เสนอความโดดเด่นด้วยนวัตกรรมพิเศษ ContiSeal™ ช่วยอุดรอยรั่วได้ทันที ตอบโจทย์รถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มียางอะไหล่ติดตั้งมาในตัวรถ ผสานเทคโนโลยี ContiSilent™ ติดตั้งโฟมดูดซับเสียงภายในยาง ช่วยลดเสียงรบกวนจากพื้นถนน ให้การขับขี่และการโดยสารเงียบสงบกว่าที่เคย สามารถขับขี่ได้ระยะทางไกลขึ้นกว่าเดิมด้วยอัตราการต้านทานการหมุนที่ต่ำ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมประสิทธิภาพในการควบคุมการขับขี่และการเบรกที่ยอดเยี่ยม ทั้งบนพื้นถนนแห้งและเปียก มอบทุกการเดินทางให้เป็นไปอย่างราบรื่นและไม่สะดุด
พิเศษสำหรับลูกค้าที่เลือกซื้อยางรุ่น MaxContact MC7 ทุกขนาดครบ 4 เส้น กับร้านค้าที่ร่วมรายการ รับฟรี! กระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นจาก Adidas x Continental ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 30 กันยายน 2567
ทั้งนี้ MaxContact MC7 ราคาเริ่มต้น 4,000 – 13,000 บาท/เส้น ตามขนาดขอบ 16 – 20 นิ้ว และ eContact ราคาเริ่มต้น 6,000 – 16,000 บาท/เส้น ตามขนาดขอบ 17 – 20 นิ้ว สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสเปคและขนาดยางได้ที่ MaxContact MC7 | Continental tyres (continental-tires.com) วางจำหน่ายผ่านร้านตัวแทนจำหน่ายคอนติเนนทอล ไทร์ส ทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.continental.co.th หรือwww.facebook.com/ContinentalTH