ปตท. เผยผลการวิเคราะห์สถานการณ์ของตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์วันที่ 9 – 12 เม.ย. 67 และแนวโน้มสัปดาห์วันที่ 15 – 19 เม.ย. 67 โดยตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเบรนท์ (ICE Brent) ราคา 90.09 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +0.59 ตลาดน้ำมันสำเร็จรูป เวสท์เท็กซัสฯ (NYMEX WTI) ราคา 85.71เหรียญต่อบาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +0.15 เหรียญ สหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปดูไบ (Dubai) ราคา 90.55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +1.21 เหรียญ สหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปซื้อซื้อขายล่วงหน้าประเทศสิงคโปร์ ราคาเบนซินออกเทน 95 ปรับราคาเพิ่มขึ้น +0.49เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 107.28 เหรียญ สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดีเซลราคาปรับราคาเพิ่มขึ้น +1.58เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 108.21เหรียญสหรัฐฯ
ตลาดจับตาสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังไม่แน่นอน ท่ามกลางแรงกดดันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน
* กองทัพอิสราเอล (Israel Defense Forces: IDF) ประกาศว่าอิสราเอลจะตอบโต้การโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธกว่า 300 ลูกของอิหร่าน เมื่อ 13 เม.ย. 67 อย่างไรก็ตาม การประชุม War Cabinet ของอิสราเอลยังไม่บรรลุข้อตกลง ด้านสหรัฐฯ ย้ำว่าจะไม่ร่วมกับอิสราเอลในการโจมตีอิหร่าน ขณะที่อิหร่านประกาศว่าหากอิสราเอลโจมตีอิหร่าน จะตอบโต้ด้วยยุทธวิธีที่รวดเร็ว และรุนแรงกว่าเดิม
* รมว. กระทรวงการคลังสหรัฐฯ Janet Yellen กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมจะออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ดี ไม่ได้ให้รายละเอียดคว่ำบาตรที่ชัดเจน แต่เพียงเน้นย้ำว่ามาตรการคว่ำบาตรมีเป้าหมายเพื่อลดศักยภาพของอิหร่านในการส่งออกน้ำมัน
* สำนักสถิติแห่งชาติของจีน (National Bureau of Statistics: NBS) รายงานโรงกลั่นนำน้ำมันดิบเข้ากลั่น (Throughput) ในเดือน มี.ค. 67 เพิ่มขึ้น 1.3% เทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ที่ 15.08 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดในรอบ 5 เดือน
* กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของโลกในปี 2567 มาอยู่ที่ +3.2% เทียบกับปีก่อนหน้า (คาดการณ์ในเดือน ม.ค. 67 ที่ +3.1% เทียบกับปีก่อนหน้า) โดยชี้ว่าเศรษฐกิจโลกยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง
* ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve: Fed) Jerome Powell กล่าวในงาน Washington Forum Washington D.C. ในสหรัฐฯ ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจและภาคการจ้างงานของสหรัฐฯ ยังขยายตัวได้ดี ทำให้ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% นานกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าโดยจะมีการปรับลดครั้งแรกในเดือน ก.ค. 67 เพื่อให้แน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงสู่เป้าหมายที่ 2%