บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) โดยนายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา หลังประกาศรุกกิจกรรมอีเว้นท์ สปอร์ตแอนเอ็นเตอร์เทนเม้นท์เต็มรูปแบบ ล่าสุดได้ร่วมเปิดบริษัทใหม่ในนาม บริษัท กรังด์ปรีซ์ ไตรลีก เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ตอบโจทย์เรื่องการจัดกิจกรรมสร้างรายได้ของชุมชน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาของนักท่องเที่ยวในทุกมิติ ทั้งนี้ก็เป็นการร่วมกันผลักดันนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงการสนับสนุนการพัฒนาการกีฬาโดยได้ร่วมขึ้นกล่าวในงานแถลงข่าวการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก ครั้งที่ 6 ปี 2566 รายการ Amazing Thailand Marathon Bangkok 2023
“เรามีความพร้อมที่จะยกระดับ การจัดกิจกรรมในส่วนของการกีฬา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเต็มกำลัง เพื่อร่วมเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงการสนับสนุนการพัฒนาการกีฬา ตามนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยใช้ความเชี่ยวชาญที่เรามี เพื่อปลุกกระแส สร้างบรรยากาศในการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้คึกคัก สำหรับงาน Amazing Thailand Marathon Bangkok ครั้งนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือของหลากหลายหน่วยงานและองค์กร อาทิ กรุงเทพมหานคร กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ฯลฯ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยไปสู่ระดับโลก” นายพีระพงศ์ กล่าว
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขัน Amazing Thailand Marathon Bangkok 2023 กล่าวว่า “การแข่งขันรายการนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 6 โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสานต่อนโยบายของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทั้งสามท่าน รัฐบาลชุดนี้นำโดย นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้จัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ “ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ” เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศ ผ่านต้นทุนทางวัฒนธรรม โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากำหนดกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด กระทรวงฯ จึงได้มอบหมายนโยบายสำคัญนี้ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัด 5 งานหลักของประเทศในช่วงสิ้นปี และหนึ่งในกิจกรรมนั้น ก็คือการแข่งขัน Amazing Thailand Marathon Bangkok นั่นเอง”
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะที่ปรึกษา และประธานคณะกรรมการฝ่ายสถานที่ กล่าวว่า “กรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าภาพร่วม Hosted City ในรายการ Amazing Thailand Marathon Bangkok 2023 เราได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการจัดการแข่งขันรายการนี้ในทุกๆ ปีอย่างต่อเนื่องไปอีก 5 ปี ผมขอถือโอกาสประกาศไว้ ณ ที่นี้ว่า รายการ ATMBKK เป็นรายการวิ่งมาราธอนอย่างเป็นทางการของกรุงเทพมหานคร”
นายณัทธร ศรีนิเวศน์ รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในฐานะ Co-Race Director และผู้สนับสนุนหลัก กล่าวว่า “โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ ไทยแลนด์ไตรลีก มาตั้งแต่ปีแรกถึงปัจจุบัน ในปีนี้ มีความพิเศษยิ่งขึ้น โดยที่เราทั้งสามฝ่ายร่วมกันจัดกิจกรรมที่จะส่งเสริมและสร้างกระแสให้คนออกมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ภายใต้กิจกรรม Road to ATMBKK 2023 หรือ ซิตี้รัน…มันส์ ฟัน เวอร์ ช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนปีนี้ กิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักวิ่งและประชาชนโดยทั่วไปเข้าร่วมเป็นจำนวนมากถึง 15,000 คน หากนำจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมดังกล่าวมารวมกับผู้ร่วมแข่งขันการแข่งขัน Amazing Thailand Marathon Bangkok 2023 จะถือว่าการจัดงานรายการนี้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากถึง 4 หมื่นคน เป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวได้อีกหลายเท่าตัว”
นายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน กล่าวถึงรายละเอียดของการแข่งขันว่า “รายการนี้ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ พระราชทานถ้วยรางวัลของรายการ จำนวนทั้งสิ้น 8 รางวัล ได้แก่ ถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำหรับผู้ชนะในประเภทบุคคลทั่วไปชาย และบุคคลทั่วไปชายไทย ระยะมาราธอน จำนวน 2 รางวัล, ถ้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี สำหรับผู้ชนะในประเภทบุคคลทั่วไปหญิง และบุคคลทั่วไปหญิงไทย ระยะมาราธอน จำนวน 2 รางวัล และถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ จำนวน 4 รางวัล สำหรับผู้ชนะในประเภทบุคคลทั่วไป ชายและหญิง ระยะฮาล์ฟมาราธอน และ ผู้ชนะในประเภทบุคคลทั่วไป ชายไทยและหญิงไทย ระยะฮาล์ฟมาราธอน นอกจากนี้ การแข่งขันยังเป็นรุ่นกลุ่มอายุต่างๆ โดยมีถ้วยรางวัลให้ชิงชัยกันทั้งสิ้น จำนวน 221 รางวัล มีเงินรางวัลรวมเป็นเงิน 2,440,500 บาท
สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ มียอดจำนวนผู้สมัครเข้าร่วมแข่งขัน ณ วันที่ 16 ตุลาคม 66 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 25,146 คน เป็นชาวไทย 20,971 คน และชาวต่างชาติ 4,175 คนจาก 65 ประเทศทั่วโลก คาดว่าการแข่งขันรายการนี้ จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของประเทศไม่น้อยกว่า 565 ล้านบาท