รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ผู้นำวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย สานต่อแผนงานมอเตอร์สปอร์ต สู่ปี 2022 มุ่งเพิ่มศักยภาพทีมแข่งและนักบิดไทยในเวทีระดับโลกอย่างต่อเนื่อง เริ่มด้วยการสนับสนุน “ก้อง-สมเกียรติ” ยอดนักบิดหนึ่งเดียวของไทยลุยศึกโมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ เต็มฤดูกาลต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 พร้อมกับส่ง “ก๊องส์-ธัชกร” ล่าแชมป์เยาวชนชิงแชมป์โลก 2 รายการใหญ่ ส่วนในระดับนานาชาติ เดินหน้าปรับไลน์อัพเพิ่มความท้าทายในทุกรายการแข่งขัน ผลักดัน “แชมป์-ภาสวิชญ์” ร่วมทัพทีมแข่งอดีตนักบิดโมโตจีพี สู้ศึกเอเชีย โร้ด เรซซิ่ง พิกัด 1,000 ซีซี ขณะนักบิดสาวแกร่ง “มุกข์-มุกข์ลดา” ขยับลุยศึกออล เจแปน รุ่น ST600 ที่ญี่ปุ่น พร้อมดึง “ชิพ-นครินทร์” คัมแบ็กทวงบัลลังก์แชมป์ให้กับฮอนด้าทั้งในระดับประเทศและระดับเอเชีย
มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า “ปี 2022 แผนงานมอเตอร์สปอร์ตของฮอนด้ายังคงสานต่อนโยบายการยกระดับศักยภาพทีมแข่งและนักบิดไทยไปสู่เวทีระดับโลกอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ได้เพิ่มความเข้มข้นให้ครอบคลุม 3 องค์ประกอบหลักของการทำทีมแข่งอย่างเป็นระบบและเต็มรูปแบบยิ่งขึ้น ทั้ง Man, Machine และ Mechanic ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Strengthen Team Performance Professionally’ รวมถึงการเพิ่มความท้าทายใหม่ในทุกระดับการแข่งขัน ด้วยการปรับทัพนักแข่งให้ไปเรียนรู้ประสบการณ์ร่วมกับทีมแข่งระดับโลก ภายใต้การดำเนินการโดย ชินอิชิ อิโตะ ยอดนักบิดโมโตจีพีชาวญี่ปุ่น เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการคว้าแชมป์ในรายการต่างๆ ด้วยรถแข่ง Honda CBR Series ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ”
สำหรับแผนงานมอเตอร์สปอร์ต ภายใต้โครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” เข้าสู่ปีที่ 6 ฮอนด้ายังคงสานต่อโร้ดแมปการพัฒนานักแข่งอย่างเป็นระบบ เพื่อเป้าหมายผลักดันนักแข่งไทยสู่การแข่งขันโมโตจีพี ภายในปี 2025 นำโดยการส่ง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดดาวรุ่งหนึ่งเดียวของไทย วัย 23 ปี ทำการแข่งขันในศึกชิงแชมป์โลก รุ่นโมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ แบบเต็มตัวตลอดฤดูกาลต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ร่วมกับสังกัด “อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย” หมายเลข 35
ตามด้วย “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดดาวรุ่งวัย 21 ปี ที่ทำผลงานยอดเยี่ยม คว้า 4 โพเดี้ยมบนเวทียุโรปเมื่อปีที่ผ่านมา จะได้รับโอกาสสู้ในศึกชิงแชมป์นักบิดเยาวชนโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในรายการ เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ภายใต้สังกัด “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” หมายเลข 33 ควบคู่กับ รายการ เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ ลงแข่งขันโดยใช้หมายเลข 5
ส่วนศึกชิงแชมป์ดาวรุ่งระดับทวีปเอเชีย รายการ อิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ ในปีนี้ฮอนด้าส่ง 2 ดาวรุ่งที่ได้รับการคัดเลือกจากผู้จัดการแข่งขัน ได้แก่ “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว และ “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร โดยจะเสริมทัพกับนักบิดรุ่นพี่ “หยก” ธนกร หลักหาญ ที่กำลังขยับผลงานในรายการนี้ได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่การแข่งขันในสายโปรดักชั่นไบค์ ภายใต้โครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน” เข้าสู่ปีที่ 2 ฮอนด้าได้ทำการต่อยอดความสำเร็จจากปีแรกที่คว้าแชมป์ในรายการต่างๆ ในนามทีมแข่ง “ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” โดยในปีนี้มีการปรับทัพเพิ่มความท้าทายในทุกรายการแข่งขัน นำโดยการส่ง “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ ร่วมทัพทีมแข่ง แอสติโม เอสไอ เรซซิ่ง วิท ไทยฮอนด้า (Astemo SI Racing with Thai Honda) ภายใต้การคุมทีมโดย ชินอิชิ อิโตะ ยอดนักบิดโมโตจีพีชาวญี่ปุ่น ซึ่งเตรียมควบรถแข่ง Honda CBR1000RR-R FIREBLADE ใหม่ล่าสุด ลุยศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ในรุ่น ASB1000 แบบเต็มฤดูกาล
“มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช เพิ่มความท้าทายในฐานะตัวแทนนักบิดสาวแกร่งหนึ่งเดียวของไทย ในรายการ เอ็มเอฟเจ ออล เจแปน โร้ด เรซ แชมเปี้ยนชิพ รุ่น ST600 ลงแข่งขันด้วยซูเปอร์สปอร์ตไบค์ Honda CBR600RR ภายใต้สังกัด แอสติโม ฮอนด้า ดรีม เอสไอ เรซซิ่ง (Astemo Honda Dream SI Racing) ที่มีนักบิดระดับโลกชาวญี่ปุ่นทำหน้าที่ผู้จัดการทีมแบบเต็มฤดูกาลเช่นกัน
ส่วนในรายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ รุ่น SS600 เป็นการคัมแบ็กของ “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ยอดนักบิดที่มีประสบการณ์ในศึกเวิลด์กรังด์ปรีซ์ รุ่นโมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ เตรียมจับคู่กับทีมเมท “นิว” กฤชพร แก้วสนธิ ด้วยรถแข่ง Honda CBR600RR ส่วนในรุ่น AP250 ส่งนักบิดดาวรุ่ง “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ โดยใช้รถแข่ง Honda CBR250RR
ฝั่งของเกมดวลความเร็วภายในประเทศ ในศึกชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ รุ่น SS1 600 ซีซี ฮอนด้าทำการปรับทัพใหม่ ส่ง 3 นักบิดแถวหน้า นำโดย “แชมป์” ภาสวิชญ์, “ชิพ” นครินทร์ และ “นิว” กฤชพร ร่วมกันผนึกกำลังล่าความสำเร็จในปีนี้
ขณะที่การแข่งขันประเภททางฝุ่น รายการชิงแชมป์ประเทศไทย เอฟเอ็มเอสซีที ไทยแลนด์ ซูเปอร์ครอส ฮอนด้ายังคงส่งยอดนักบิดดาวรุ่ง “แซงค์” กฤษฎา จำรูญจารีต เจ้าของแชมป์ 3 ปีซ้อน(2019-2021) รุ่น MX2-A ด้วยรถแข่ง Honda CRF250R โดยมีเป้าหมายโชว์ความแข็งแกร่งคว้าแชมป์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ เพื่อให้โร้ดแมปการพัฒนานักแข่งทำได้อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ฐานรากโครงสร้างการพัฒนานักแข่งยังคงเป็นเสาหลักที่สำคัญ ในปีนี้ฮอนด้าได้เพิ่มความท้าทายใหม่ ด้วยการกำหนดหลักสูตร 3 ปี เสริมทักษะความเข้มข้นในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน ภายใต้โครงการสร้างนักแข่งเยาวชน ทั้งในรายการ ฮอนด้า อะคาเดมี่ สำหรับนักบิดเยาวชนตั้งแต่อายุ 8-13 ปี และรายการ ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ อายุไม่เกิน 18 ปี ซึ่งใช้รถแข่งเรซแมชชีนที่ได้มาตรฐานระดับโลกอย่าง Honda NSF100 และ Honda NSF250R ตามลำดับ
นอกจากนี้ ในส่วนของการยกระดับศักยภาพของนักบิดไทยเพื่อให้รองรับกับแผนงานทั้งหมด ฮอนด้าตัดสินใจให้ “ดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง นักบิดมากประสบการณ์ เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนในตำแหน่งผู้ช่วยโค้ช ร่วมกับเฮดโค้ช “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ยอดนักบิดไทยคนแรกในศึกโมโตทู โดยมีนักบิดโมโตจีพีจากญี่ปุ่นอย่าง ชินอิชิ อิโตะ เป็นโค้ชที่ปรึกษาในด้านนี้โดยเฉพาะ
“ฮอนด้ามีความยินดีที่ได้ประกาศว่า นักแข่งของเราทุกคนสามารถพัฒนาศักยภาพและได้ไปต่อในรายการแข่งขันที่ใหญ่ขึ้น สุดท้ายนี้ฝากแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยร่วมติดตามและส่งกำลังใจเชียร์ทีมแข่ง ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ และนักแข่งฮอนด้าทุกคนด้วยครับ” ประธานกรรมการบริหาร ไทยฮอนด้า กล่าวสรุป
สำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของนักบิดไทยในโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” และ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน” รวมถึงส่งกำลังใจเชียร์นักบิดฮอนด้าทุกคนได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ เรซ ทู เดอะ ดรีม : www.facebook.com/HondaRacingTeamTH