ในช่วงปลายปีแบบนี้ ฮ่องกงขอจัดกิจกรรมเอาใจนักชิมนักดื่มแบบไม่พักให้สมกับฐานะ “สวรรค์แห่งอาหารของเอเชีย” ด้วย 2 เทศกาลอาหารและเครื่องดื่มที่หลายคนรอคอยอย่าง เทศกาล Hong Kong Wine & Dine Festival ที่รวมตัวจริงด้านอาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลก มาไว้ที่ Central Harbourfront พร้อมการแสดงแสงสีจัดเต็ม ต้อนรับเทศกาลฮาโลวีนแบบเต็มอิ่ม ตั้งแต่วันที่ 23-27 ตุลาคม ตามมาติดๆ ด้วย กิจกรรม Taste Around Town ที่รวมร้านอาหารและบาร์ที่ร่วมรายการทั่วฮ่องกง มารังสรรค์เมนูเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมแจกส่วนลดพิเศษให้ผู้เข้าชมงาน ตั้งแต่ 28 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน ปิดท้ายด้วยการเอาใจสายดริ๊งก์กันแบบสุดๆ ด้วยลิสต์ 6 บาร์ลับที่ต้องไปเช็กอินให้ได้!
ลิ้มรสชาติจากทั่วโลก: เทศกาล Hong Kong Wine & Dine Festival กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ขยายเวลาจัดงานเป็น 5 วัน เพื่อเฉลิมฉลองให้แก่อาหารเลิศรส
ค้นพบโลกแห่งไวน์และเครื่องดื่ม
สายดื่มห้ามพลาดบูธไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่ผ่านการคัดสรรจาก 30 ประเทศและภูมิภาค ตั้งแต่บอร์โด (Bordeaux) และชิลี ไปจนถึง Hidden Gems จากหลายภูมิภาค นอกจากนี้ยังจะได้ลองชิมไวน์ Jade Dove Cabernet สุดวิจิตรจากจีน ที่ติดอันดับ “Top 10 Wines of the Year 2021 in China” ของ James Suckling นักวิจารณ์ไวน์ชื่อดัง นอกจากบูธไวน์ต่างประเทศแล้ว ภายในงานยังมีโซนใหม่สำหรับสาวกเหล้าจิน วิสกี้ สุรา และค็อกเทลโดยเฉพาะอีกด้วย
ผจญภัยในดินแดนอาหารสุดมหัศจรรย์
สำหรับสายฟู้ดดี้ ยังมีบูธอาหารกว่า 100 บูธ แบ่งโซนไปตามธีมต่างๆ อาทิ “Culinary Stars” และ “Hotel Delicious” โดยมีทั้งร้านอาหารที่ได้ดาวมิชลิน ร้านที่ได้รับ Bib Gourmand และร้านอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ร้านอาหาร 3 ดาวมิชลิน อย่าง ร้าน Forum Restaurant รวมไปถึงร้านอาหารที่ชนะรางวัล อย่าง ร้าน Hong Kong Cuisine 1983, Ăn Chơi และ Fisholic
ช่วงเวลาแสนสนุกสุดขนหัวลุกในช่วงเสาร์-อาทิตย์แห่งฮาโลวีน
วันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 26-27 ตุลาคม งาน Hong Kong Wine & Dine Festival จะแปลงกลายเป็นดินแดนฮาโลวีนสุดมหัศจรรย์สำหรับนักชิม ที่ขอเชิญชวนผู้มาเยี่ยมชมทุกท่านแต่งตัวในธีมฮาโลวีนมาอวดโฉมกันเพื่อรับเหรียญสำหรับใช้จ่ายในงาน และยังมีการแสดงและดนตรีสดช่วยเพิ่มความกุ๊กกู๋เข้าธีมช่วงฮาโลวีนอีกด้วย
ตระเวนชิมอาหารทั่วเมืองในงาน Taste Around Town
ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน บาร์และร้านอาหารกว่า 300 แห่งทั่วฮ่องกงจะตบเท้าเข้าร่วมเทศกาล Taste Around Town ซึ่งปีนี้มาในธีม “Beef Up November” ที่เหล่าร้านสเต็ก หม้อไฟ และ ร้านอาหารสตรีทฟู้ดกว่า 40 แห่ง จะรังสรรค์เมนูเนื้อสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีขายแค่ช่วงเวลานี้โดยเฉพาะ คนรักเนื้อห้ามพลาดเด็ดขาด และยังมีกิจกรรม “Chill EAT” ที่ร้านอาหารระดับ Mid ถึง High End อีกกว่า 200 แห่ง จะมอบส่วนลดสุดพิเศษตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายนนี้
สำหรับสายนั่งชิล และสายดื่มต้องแวะไปที่ Lan Kwai Fong ย่านแฮงเอาต์ยามค่ำคืนที่โด่งดังของฮ่องกง โดยร้านอาหารและบาร์ 24 แห่ง ที่ร่วมรายการจะมอบ Welcome Drinks ให้กับลูกค้า หรือมอบส่วนลดสำหรับเมนูทดลอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม “Sip and Savour in LKF” นอกจากนี้ ยังมีบาร์อีก 70 แห่งทั่วฮ่องกง ที่เข้าร่วมกิจกรรม “Hong Kong Bar Show” ที่จะมอบเครื่องดื่มฟรี หรือส่วนลดให้กับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ฮ่องกงยังถือเป็นแหล่งรวมบาร์เด็ด ชื่อดังไว้หลายร้าน แต่วันนี้เราขอเอาใจสายดื่มสายดริงก์กันต่อด้วยลิสต์บาร์ลับฮ่องกงที่หลายคนไม่ค่อยรู้จัก แต่ละร้านที่คัดมานั้นมีคอนเซ็ปต์ที่หลากหลาย พร้อมค็อกเทลรสชาติดีให้ทุกคนได้ไปตามรอยกัน
1.Bar Leone: เปิดตำนานใหม่ คว้าตำแหน่งอันดับหนึ่ง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ติดอันดับ Asia’s 50 Best Bars 2024
Bar Leone โดย ลอเรนโซ อันติโนริ (Lorenzo Antinori) มาในคอนเซ็ปต์บาร์ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบาย เหมือนได้กลับบ้าน ให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนกำลังนั่งจิบค็อกเทลดี ๆ อาหารอร่อย ๆ ในบ้านตัวเอง ซึ่งนี่ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่กับตลาดฮ่องกงที่ลูกค้าต่างเคยชินกับคอนเซ็ปต์สุดล้ำมากมาย โดย Bar Leone ให้ความใส่ใจกับทุกรายละเอียดของร้านตั้งแต่การตกแต่งที่จำลองบรรยากาศบ้านๆ ของห้องนั่งเล่น และที่สำคัญคือการบริการที่เป็นมิตรของพนักงานในร้าน และมากับเมนูค็อกเทลที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่อร่อยชวนให้อยากดื่มซ้ำอย่าง Negroni, Dirty Martini และ Olive Oil Sour
นอกจากค็อกเทลแล้ว ที่นี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องอาหารสไตล์โฮมเมดแบบชนบทของอิตาลีหลายเมนู และยังมีโปรเจกต์ใหม่อย่าง Caffe Leone ที่เสิร์ฟกาแฟ และ Coffee Cocktail สไตล์อิตาลีในยามบ่ายอีกด้วย ซึ่ง Caffe Leone เป็น Pop Up Café เปิดให้บริการตามวันและเวลาที่กำหนดเท่านั้น
วันนี้ Bar Leone บาร์ลับฮ่องกงก้าวเข้าสู่สปอตไลต์ในวงการค็อกเทลอย่างเต็มตัว จากการคว้ารางวัลอันดับ 1 ของ Asia’s 50 Best Bars 2024 ในครั้งแรกของการเข้าชิง จนได้รับรางวัล Highest New Entry Award อีกด้วย
Bar Leone
15 Bridges St, Central, Hong Kong
เปิดให้บริการ 17.00-24.00 (ปิดวันจันทร์)
2.The Opposites: การจับมือของขั้วตรงข้ามแห่งวงการค็อกเทล
The Opposites โปรเจกต์บาร์ล่าสุดของบาร์เทนเดอร์ตัวจี๊ดแห่งฮ่องกง Antonio Lai เจ้าของ Quinary บาร์ที่ได้รางวัลทั้ง Asia’s 50 Best Bars และ World’s 50 Best Bars ที่จับมือกับ Samuel Kwok อดีตเพื่อนร่วมทีม โดยบาร์แห่งใหม่นี้ตั้งอยู่บนถนน Hollywood ฝั่งตรงข้ามกับ Quinary ห่างเพียงไม่กี่ก้าว จึงเกิดเป็นชื่อ The Opposites พร้อมคอนเซ็ปต์ “ขั้วตรงข้าม” นั่นเอง
ความตรงข้ามกันเริ่มตั้งแต่สองบาร์เทนเดอร์หัวเรือหลักอย่าง Antonio Lai เจ้าพ่อแห่งการคิดค้น ผู้บุกเบิกการผสมเครื่องดื่มแบบ Molecular ในฮ่องกง ด้วยเทคนิคและอุปกรณ์สมัยใหม่ กับ Samuel เป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาเทคนิคการผสมเครื่องดื่มแบบคลาสสิกและดั้งเดิม เชี่ยวชาญการปรุง Classic Cocktail ให้แตกต่างได้อย่างน่าจดจำ โดยจะมีเมนู Classic Cocktail เป็นเมนูแกนหลัก แล้วแตกเป็นสองเมนูย่อยซ้ายขวา ที่มีความแตกต่างกันในเชิงรสชาติ มิติ รสสัมผัส ประสบการณ์ ที่แม้จะอยู่ตรงข้าม แต่กลับไปด้วยกันได้ดี จากสองทักษะที่แตกต่างกันของสองบาร์เทนเดอร์ เช่น เมนู Classic อย่าง Pimm’s Cup ซึ่งถูกต่อยอดเป็น Son of Pimm’s กับ Selling Seashell นั่นเอง
The Opposites
LG/F, Hilltop Plaza, 49 Hollywood Road, Central, Hong Kong
เปิดให้บริการ ทุกวัน 17.00 – 01.00
3.GOKAN: บาร์ที่ดึงทุกประสาทสัมผัสด้วยเมนูค็อกเทล
GOKAN โดย Shingo ซึ่งเป็นบาร์เทนเดอร์ชื่อดังของวงการที่เป็นเจ้าของบาร์รางวัลอยู่หลายแห่งทั่วเอเชีย โดยได้ขยายอาณาจักรมาที่ฮ่องกงสวรรค์แห่งนักดื่มแล้ว ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากนักดื่มตั้งแต่ช่วง Soft Opening ตามคาด บาร์แห่งนี้ตั้งอยู่บนถนน Ice House ซึ่งเคยเป็นโรงเก็บน้ำแข็งแห่งแรกของฮ่องกง Shingo จึงหยิบเอาเรื่องราวในประวัติศาสตร์มาสอดแทรกอยู่ในการตกแต่งร้านและเมนูอาหาร อย่างตัวบาร์ที่เป็นไม้แกะสลัก ตกแต่งด้วยบล็อกแก้วที่เหมือนกับก้อนน้ำแข็ง ส่วนเครื่องดื่มก็นำเสนอผ่าน Cocktail ที่เป็นตัวแทนของ GOKAN ด้วยการเสิร์ฟในสไตล์ Highball, Rock และ Up (เปลี่ยนสถานะของก้อนน้ำแข็งให้คงรูปของความเย็นเท่านั้น) โดยทุกเมนูนำเสนอรสชาติแบบ Multi-Sensory ผสมผสานรสชาติ กลิ่น เทคนิค สีสัน และความเหมาะสมให้เข้ากันเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างกลมกล่อม
GOKAN
30 Ice House Street, Hong Kong
เปิดบริการ 17.00 จนถึงดึก (ปิดวันอาทิตย์)
4.Dead Poets: บาร์สุดเก๋ แรงบันดาลใจจากศิลปินผู้ล่วงลับ
Dead Poets มาในคอนเซ็ปท์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนักดนตรีและศิลปินที่ล่วงลับ มาครีเอทเมนูค็อกเทลต่างๆ โดยมี Signature Drink อยู่ทั้งหมด 12 เมนู ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงของศิลปินต่างๆ เช่น Cheated Myself (Amy Winehouse), Supervillain Kon Queso (MF Doom) และ Ob-La-Di, Ob-La-Da (John Lennon, The Beatles) เป็นต้น แม้ว่า Dead Poets มีจะพื้นที่ค่อนข้างเล็ก แต่ก็ฉลาดในการออกแบบ ตกแต่งในสไตล์มินิมอลแต่แปลกใหม่ด้วยสเตนเลสสตีลให้บรรยากาศแบบห้องเก็บศพ ซึ่งตัดกับแสงสีแดงจากโลโก้ Dead Poets บริเวณด้านหลังบาร์เป็นจุดดึงสายตาเมื่อก้าวเข้ามาในบาร์แห่งนี้
ที่โดนใจลูกค้าสุดๆ คือราคาที่เป็นมิตร และไม่มี Service Charge อีกด้วย โดยมีการใส่กิมมิคเขียนคำว่า R.I.P SERVICE CHARGE ไว้ที่มุมล่างขวาของเมนู ถือว่าเป็นการตอกย้ำคอนเซ็ปต์ของร้านได้ดีเยี่ยม
Dead Poets
41-49 Aberdeen Street, Central, Hong Kong
เปิดให้บริการ จันทร์-เสาร์ 9.00-01.00, เสาร์-อาทิตย์ 12.00-01.00
5.LOCKDOWN: โปรเจกต์ใหม่ของ Agung บาร์เทนเดอร์มือรางวัลแห่งฮ่องกง
บาร์ LOCKDOWN อยู่ภายใต้การดูแลของ Agung Prabowo และ Laura Prabowo คู่หูชาวอินโดนีเซีย ที่ปลุกปั้นบาร์ Penicillin จนเป็นที่โด่งดังในระดับสากล โดย LOCKDOWN เกิดจากความต้องการนำเสนอบาร์บริการพรีเมียมที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในโรงแรม โดยคอนเซ็ปต์ของร้านได้แรงบันดาลใจมาจาก ช่วงปี 1920 ที่อเมริกาออกกฏหมายห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ จนเกิดเป็น Speakeasy Bar หรือบาร์ลับที่รู้กันในวงการของสิงห์นักดื่มเท่านั้น ซึ่งเหมือนกับยุคล็อคดาวน์ในช่วงโควิด บาร์ LOCKDOWN จึงต้องการเป็นพื้นที่แห่งการปลดปล่อย และพื้นที่แห่งอิสระให้กับผู้มาเยือน ด้วยการขีดฆ่าคำว่า LOCKDOWN ใน Logo ของร้าน
สำหรับ Signature Cocktail ของที่นี่ คือการเลือก Forgotten Classic Cocktails มาต่อยอดใหม่ นำเสนอรสชาติแบบตรงไปตรงมาและไม่ซับซ้อน แต่ยังคงใช้ทักษะและเทคนิคอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Agung ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 หมวดด้วยกัน คือ Experimental, Vintage และ Remastered Classics เช่น เครื่องดื่ม Left Bank ที่เน้นความหอมหวานของดอกไม้, Silk Stocking Cocktail ในสไตล์ Milk Punch ยิ่งไปกว่านั้น ที่ LOCKDOWN ยังมีเครื่องดื่มที่เลือกใช้เหล้าโบราณที่หายากในยุคนี้อีกด้วย
LOCKDOWN
G/F 27 Hollywood Road, Central. Hong Kong
เปิดให้บริการ 18.00-01.00 (ปิดวันอาทิตย์)
6.Artifact Bar: บาร์ลับที่ซ่อนตัวอยู่ในชั้นใต้ดินของศูนย์อาหาร
Artifact Bar บาร์ลับที่ไม่มีแม้กระทั่งป้ายชื่อร้าน ซ่อนตัวอยู่ในฟู้ดคอร์ท BaseHall 2 ของ Jardine House ซึ่งจะพาทุกคนดำดิ่งไปสู่อีกโลก นำเสนอคอนเซ็ปต์ของบาร์ที่เปรียบเสมือนยานพาหนะใต้น้ำจากโลกอนาคต พร้อมพาทุกคนออกไปค้นพบประสบการณ์แปลกใหม่ ทั้งบรรยากาศของร้านตั้งแต่การออกแบบที่เน้นแสงภายใน ให้เกิดเงาตกกระทบในทุกพื้นที่ ราวกับเป็นฉากในภาพยนตร์แนว Dystopian Sci-Fi ในปี 1997 อย่าง Gattaca
โดยบาร์ลับแห่งนี้สามารถรองรับลูกค้าได้เพียง 40 คนเท่านั้น เพราะทุกพื้นที่ภายในร้านไม่เพียงถูกออกแบบมาเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่เป็นพื้นที่ ที่เน้นการสร้างประสบการณ์อันน่าจดจำให้กับลูกค้าทุกคน มาพร้อมเครื่องดื่ม ที่เป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอเรื่องราวการเดินทางของรสชาติและสถานที่ ผ่านการเชื่อมโยงของ เวลา ภูมิประเทศ แหล่งกำเนิดของวัตถุดิบ รวมไปถึงพาออกค้นพบรสชาติใหม่ๆ จาก Spirits ที่หาดื่มได้ยากในบาร์ฮ่องกง นอกเหนือจากเมนูประจำแล้ว ทุกๆ 3 เดือน จะมีเมนูพิเศษมาเพิ่มประสบการณ์ในการเดินทางให้สนุกมากยิ่งขึ้น
Artifact Bar
LG, Jardine House, No. 1 & 2, Shop 5 & 7, 1 Connaught Pl, Central, Hong Kong
เปิดให้บริการ 17.00-24.00, ศุกร์/เสาร์ ปิด 01.00 (ร้านปิดวันอาทิตย์และวันจันทร์)
อย่าพลาดประสบการณ์ที่จะได้พาตัวเองไปดื่มด่ำกับอาหารที่หลากหลายในฮ่องกง สายกินสายดื่มจองตั๋วเลยวันนี้ เพื่อออกสัมผัสความหลากหลายของอาหารและเครื่องดื่มที่เตรียมมรอเสิร์ฟคุณในเมืองหลวงแห่งอาหารระดับโลกนี้
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกของฮ่องกง และเริ่มวางแผนการเดินทางของคุณได้ที่ https://www.discoverhongkong.com/eng/what-s-new/events/wine-dine-festival.html
(ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก https://www.facebook.com/BKK.COCKTAIL.CULT)