เจเจ-แลปป์ (JJ-LAPP) กิจการร่วมทุนด้านเทคโนโลยีสายเคเบิลระหว่างเจ๊บเซ่น แอนด์ เจ๊สเซ่น กรุ๊ป (Jebsen & Jessen Group) กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย และแลปป์ โฮลดิง เอเชีย (LAPP Holding Asia) ประกาศความร่วมมือครั้งที่สองกับ บริษัทเต่อเย่ ( Deye) ผู้นำตลาดอินเวอร์เตอร์และระบบจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลก โดยนับเป็นความร่วมมือครั้งแรกในตลาดไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเจเจ-แลปป์ ในการผลักดันการใช้พลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย พร้อมนำเสนอโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจรสำหรับการใช้งานในที่อยู่อาศัย ธุรกิจ และอุตสาหกรรม (C&I) ต่อยอดจากความสำเร็จในการทำธุรกิจร่วมกันก่อนหน้านี้ในมาเลเซีย ข้อตกลงครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของทั้งสองแบรนด์ในการขยายการจัดจำหน่ายตลาดอินเวอร์เตอร์และระบบจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ครบวงจรของ Deye สู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างจริงจังภายใต้แผนพลังงานแห่งชาติ โดยตั้งเป้าหมายเพื่อต่อสู้กับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 30-40% ภายในปี 2573 การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 ตลอดจนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์หรือ Net Zero ภายในปี 2608 ความร่วมมือครั้งนี้จึงมุ่งสนับสนุนเป้าหมายของประเทศในการก้าวสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน 100% พร้อมผลักดันการใช้พลังงานสะอาดให้แพร่หลายทั้งในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ เจเจ-แลปป์ ประเทศไทย จะรับผิดชอบด้านการขาย การจัดจำหน่าย และการให้บริการสนับสนุนสำหรับผลิตภัณฑ์และโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมดของ บริษัทเต่อเย่ ซึ่งรวมถึงอินเวอร์เตอร์พลังงานแสงอาทิตย์ และระบบจัดเก็บพลังงาน (ESS) และอินเวอร์เตอร์แบบไฮบริด ซึ่งล้วนเข้ามาเสริมแกร่งให้พอร์ตโฟลิโอที่ครบวงจรของเจเจ-แลปป์ ตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการโซลูชันแบบครบวงจรชั้นนำที่รองรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์หลายขนาด ทั้งที่อยู่อาศัย โครงการเชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรม และระบบสาธารณูปโภค ความร่วมมือนี้ พร้อมนำเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ เม็ดเงินลงทุน และความเชี่ยวชาญมาสู่ตลาดไทย เพื่อตอบสนองต่อความต้องการโซลูชันพลังงานหมุนเวียนที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ และเร่งการใช้พลังงานแสงอาทิตย์อย่างแพร่หลายมากขึ้นในประเทศ
“ท่ามกลางวิกฤตสภาพภูมิอากาศโลก เจเจ-แลปป์ มุ่งมั่นขับเคลื่อนการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง” นายฉัตรชัย วาจาเกียรติ ผู้จัดการทั่วไปของเจเจ-แลปป์ ประเทศไทย กล่าว พร้อมเสริมว่า “ด้วยการผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยของ บริษัทเต่อเย่เข้ากับเครือข่ายที่แข็งแกร่งและบริการที่ครอบคลุมของเจเจ-แลปป์ เราจะทำให้ธุรกิจและเจ้าของบ้านเข้าถึงโซลูชันพลังงานหมุนเวียนได้ง่ายและสะดวกขึ้น
นอกจากนี้ความร่วมมือครั้งนี้ยังครอบคลุมการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาเพื่อเพิ่มความรู้กับบุคลากรในประเทศให้มีทักษะที่จำเป็นในการสนับสนุนการเติบโตของตลาดพลังงานยั่งยืนในประเทศไทยอีกด้วย”
นอกจากการทำให้โซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เจเจ-แลปป์ มุ่งส่งเสริมความเชี่ยวชาญในตลาดของประเทศไทย ผ่านความร่วมมือระหว่างองค์กร โดยเจเจ-แลปป์ เดินหน้าสร้างความร่วมมือกับสถาบันเทคนิคและศูนย์ฝึกอบรมในไทย เพื่อจัดหลักสูตรเฉพาะทางเกี่ยวกับโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์แบบไฮบริดและระบบกักเก็บพลังงาน พร้อมออกใบรับรองความเชี่ยวชาญเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันได้มีการลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) และวิทยาลัยเทคนิคสุพรรณบุรี เพื่อจัดสอนหลักสูตรดังกล่าว โดยการฝึกอบรมครั้งแรกร่วมกับ มทร.อีสาน จัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วม 34 คน หลักสูตรดังกล่าวจะจัดสอนตลอดทั้งปี โดยครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคสุพรรณบุรี
ที่ผ่านมา เจเจ-แลปป์ ได้ตอกย้ำศักยภาพในการมอบโซลูชันที่ปรับแต่งตามความต้องการ พร้อมเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรและผู้เล่นในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ร่วมงานสำคัญถึงสองงาน ได้แก่ Solar & Storage Live Thailand เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และ Automation Expo 2025 ในเดือนมีนาคม
นายประพันธ์ หาญไชย, ประเทศไทย, ที่ปรึกษา บริษัทเต่อเย่ กล่าวเสริมว่า ” บริษัทเต่อเย่ ยินดีที่ได้ร่วมมือกับ เจเจ-แลปป์ เพื่อนำนวัตกรรมระบบจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ของเรามาสู่ประเทศไทย เชื่อมั่นว่าการผนึกเทคโนโลยีของเรา เข้ากับความเชี่ยวชาญและบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าของเจเจ-แลปป์ จะช่วยเร่งการใช้พลังงานหมุนเวียนในไทยอย่างมีนัยสำคัญ ความร่วมมือนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของเราในการมอบโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ที่น่าเชื่อถือและเข้าถึงง่าย พร้อมเร่งผลักดันให้ธุรกิจและชุมชนสามารถเลือกพลังงานแห่งความยั่งยืนมาใช้ได้อย่างสะดวกสบาย”
Launching a Major Collaboration to Bring Cutting-Edge Solar Energy Solutions to Thailand Supporting the Goal of Carbon Neutrality and Net Zero Greenhouse Gas Emissions
JJ-LAPP, the cable technology joint venture between diversified industrial conglomerate Jebsen & Jessen Group and LAPP Holding Asia, today announced its second collaboration with Teoye. ( Deye) Global market leader in solar inverters and storage systems, this is the first collaboration in the Thai market, reinforcing JJ-Lapp’s commitment to drive the adoption of renewable energy in Thailand and offering end-to-end solar solutions for residential, commercial and industrial (C&I) applications. Building on the success of their previous collaboration in Malaysia, this agreement marks an important step for both brands in expanding the distribution of Deye’s complete range of solar inverters and storage systems to Thailand for the first time.
Thailand is currently seriously moving towards clean energy under the National Energy Plan, which aims to combat the climate change crisis by reducing greenhouse gas emissions by 30-40% by 2030, achieving carbon neutrality by 2050, and achieving Net Zero greenhouse gas emissions by 2065. This collaboration aims to support the country’s goal of moving towards 100% renewable energy use and promote the widespread use of clean energy in both public and private sectors.
Under this partnership, JJ-Lapp Thailand will be responsible for sales, distribution and support services for all of Teoye’s solar products and solutions, including solar inverters, energy storage systems (ESS) and hybrid inverters, which will complement JJ-Lapp’s comprehensive portfolio and position it as a leading one-stop solution provider for solar projects of all sizes, including residential, commercial, industrial and utility scale. This partnership will bring solar technology, investment and expertise to the Thai market, addressing the demand for reliable and efficient renewable energy solutions and accelerating the widespread adoption of solar power in the country.
“Amid the global climate crisis, JJ-Lapp is committed to driving the continued adoption of renewable energy,” said Mr. Chatchai Wajakiat, General Manager of JJ-Lapp Thailand. “By combining Teoye’s cutting-edge technology with JJ-Lapp’s robust network and comprehensive services, we will make it easier for businesses and homeowners to access renewable energy solutions. This partnership also includes working with educational institutions to equip local workforces with the skills needed to support the growth of Thailand’s sustainable energy market.”
In addition to making solar solutions more accessible, JJ-Lapp aims to promote expertise in the Thai market through corporate collaboration. JJ-Lapp continues to partner with technical institutes and training centers in Thailand to provide specialized courses on hybrid solar and energy storage solutions and issue certifications to meet the increasing market demand. It has recently signed a collaboration agreement with Rajamangala University of Technology Isan (RMUTI) and Suphan Buri Technical College to provide such courses. The first training with RMUTI was held in March with 34 participants. The courses will be offered throughout the year, with the next one being held in May in collaboration with Suphan Buri Technical College.
Over the years, JJ-Lapp has reinforced its capability to provide customized solutions and continues to partner with industry players. Most recently, it participated in two major events: Solar & Storage Live Thailand in February and Automation Expo 2025 in March.
Mr. Prapan Hanchai, Thailand, Consultant Teoye Company Added that ” Teoye is pleased to partner with JJ-Lapp to bring our innovative solar energy storage system to Thailand. We believe that the combination of our technology with JJ-Lapp’s expertise and customer-facing services will significantly accelerate the adoption of renewable energy in Thailand. This collaboration reflects our commitment to provide reliable and accessible solar solutions, while accelerating the convenience of sustainable energy choices for businesses and communities.”
