“คิสท์เลอร์” (KISTLER) ถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีเซนเซอร์ การวัดแรงดัน (pressure) แรง (force) แรงบิด (torque) และอัตราเร่ง (acceleration) แบบไดนามิก โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นพื้นฐานการพัฒนาที่เรียกว่า “โซลูชันโมดูลาร์” ที่มีประสิทธิภาพสูง เทคโนโลยีเซนเซอร์ของคิสท์เลอร์ มีส่วนช่วยให้ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรม การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ให้สามารถปรับปรุงผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน
นายไมเคิล ราเบอร์ (Mr. Michael Raber) Continental Head R-APAC กล่าวถึงความเป็นมาของ KISTLER ว่า “คิสท์เลอร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1959 ที่สวิตเซอร์แลนด์ ตลอดระยะเวลา 65 ปีในการดำเนินธุรกิจ เราพัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ในหลายอุตสาหกรรม ทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมหนัก ระบบโลจิสติกส์คมนาคม เครื่องมือแพทย์ เซมิคอนดักเตอร์ พลังงานอุตสาหกรรมการบิน และครอบคลุมถึงธุรกิจที่เกิดใหม่ด้วย ตลอดเส้นทางการดำเนินธุรกิจ บริษัทร่วมมือกับลูกค้าในการพัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถ ศักยภาพลูกค้าให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ขณะเดียวกัน ยังพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเทรนด์อุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า การขับขี่อัตโนมัติ การลดการปล่อยมลพิษ และอุตสาหกรรม 4.0 การเติบโตของเราไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศ เรายังขยายตลาดออกไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่ใช่แค่เพียงประเทศในแถบยุโรป แต่ยังครอบคลุมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศไทย ปัจจุบันคิสท์เลอร์มีพนักงานมากกว่า 2,200 คน โรงงานกว่า 60 แห่งทั่วโลก เราได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั่วโลก โดยในปี 2023 บริษัทมียอดขาย 465 ล้านฟรังก์สวิส”

นายโจ ออง (Mr. Joe Ong) Head of SEA กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจของคิสท์เลอร์ ผลิตภัณฑ์ที่เรานำเสนอให้แก่ลูกค้า ผ่านการวิจัยมาอย่างเข้มข้นเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของเราตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด การขยายสาขามายังประเทศในแถบเอเชีย เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน เป็นเสมือนเครื่องการันตีการยอมรับในคุณภาพของสินค้าและบริการของเราลูกค้าไม่ได้ซื้อแค่ผลิตภัณฑ์แล้วจบไป เรามีการพัฒนาต่อเนื่องที่รองรับการเติบโตของเทคโนโลยีในโลกยุคปัจจุบัน ขณะที่ลูกค้าของเราไม่ใช่แค่ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจ แต่ยังครอบคลุมถึงลูกค้าในกลุ่มองค์กรภาครัฐ ด้วย”
ไทยเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของคิทส์เลอร์ เมื่อหลายอุตสาหกรรมมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ระบบขนส่ง อุตสาหกรรมการแพทย์และการบริการ คิทส์เลอร์จึงเข้ามาปักหมุดในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006
นางสาวธมลวรรณ คัญชิตากร (Ms. Tamonwan Kanchitakorn) Country Manager Kistler Instrument (Thailand) Co., Ltd. กล่าวเสริมว่า “คิสท์เลอร์ เข้ามาขยายตลาดในไทยตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 โดยอุตสาหกรรมที่ผลิตภัณฑ์ของเราสามารถเข้าไปเติมเต็มได้คือ อุตสาหกรรมยานยนต์ โครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ระบบขนส่งเส้นทางคมนาคม โดยเฉพาะการตรวจวัดน้ำหนักของรถบรรทุกแบบวิ่งผ่าน (Weight In Motion) ซึ่งเป็นงานที่เราได้รับความไว้วางใจจากกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท เทคโนโลยีของเราได้รับมาตรฐานระดับโลก

ผลการดำเนินงานของเราในปีนี้ แม้ว่าจะยังไม่จบปี แต่ต้องบอกว่าเติบโตมากกว่า 20% ซึ่งอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ผลประกอบการของเราเป็นไปในทิศทางบวกคือ โครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยเฉพาะ Traffic Solution เซนเซอร์สำหรับตรวจวัดน้ำหนักรถบรรทุกแบบวิ่งผ่าน เทคโนโลยีที่ใช้ตรวจวัดระบบการรองรับความปลอดภัยของสะพานต่าง ๆ
สำหรับเป้าหมายในปีหน้า เราคาดว่าอัตราการเติบโตของเราจะอยู่ที่ 2 ดิจิต หรือประมาณ 20% แม้ว่าในตลาดนี้เราจะมีคู่แข่งอยู่บ้าง แต่ผลิตภัณฑ์ของเราเป็น High-Class Quality ฉะนั้นเรามั่นใจว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา จะกลับมาใช้อีก เพราะเรานำเสนอมาตรฐานสูงสุด ลูกค้าใช้แล้วไม่ผิดหวัง
นอกจากนี้เรายังมีการลงทุนในงาน R&D ซึ่งจะใช้งบประมาณ 10% ของยอดขายทั่วโลก เพื่อที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์โซลูชันใหม่ ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตของตลาด เทคโนโลยี อีกทั้งเรายังศึกษา Megatrend อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ไม่พลาดทุกการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เทรนด์อุตสาหกรรมที่คำนึงถึงความยั่งยืน เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง”
ทั้งนี้ บริษัท คิสท์เลอร์ อินสทรูเม้นท์ (ไทยแลนด์) จำกัด ยังได้มีการขยายออฟฟิศ เปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่เติบโตขึ้น โดยจัดงานเปิดตัวไป เมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีตัวแทนผู้บริหาร “คิสท์เลอร์” (KISTLER) เข้าร่วม พร้อมด้วยผู้บริหารจากหอการค้าสวิส-ไทย นายมาร์โค รูดิน (Mr. Marco Rudin Executive Director Swiss – Thai Chamber of Commerce) ผู้บริหารจากหอการค้าเยอรมัน-ไทย นายมาริอุส เมเนอร์ (Mr. Marius Mehner Deputy Executive Director & Head of Corporate Services Department German – Thai Chamber of Commerce) และแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมแสดงความยินดี ณ คิสท์เลอร์ (ไทยแลนด์) โครงการซัมเมอร์ ลาซาล