ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยในหลายภาคธุรกิจต้องดิ้นรนจากผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอีกระลอก ผู้ซื้อในตลาดระดับบนที่ไม่มีภาระหนี้สินกลับกำลังขยายพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก พบว่า จากการที่โรงเรียนและสถาบันการศึกษาในอังกฤษจะกลับมาเปิดอีกครั้งในเดือนกันยายนนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนจึงกลับมาได้รับความสนใจจากผู้ซื้ออีกครั้ง โดยปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของผู้ซื้อ ได้แก่ ความสะดวกสบายของครอบครัว การเติบโตของราคาที่อยู่อาศัย มาตรการยกเว้นภาษีอากรแสตมป์ และแนวโน้มที่กลุ่มลูกค้าระดับบนต้องการบ้านที่สองมากขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกในภาวะวิกฤต
นางสาวปพิณริยา พึ่งเขื่อนขันธ์ หัวหน้าแผนกซื้อขายที่พักอาศัยรายย่อย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ให้ความเห็นว่า “ตลาดที่พักอาศัยในลอนดอนในช่วงไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ปี 2564 ประสบความสำเร็จเกินกว่าที่คาดไว้มากจากนโยบายของรัฐบาลอังกฤษที่สนับสนุนการซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั้งในด้านการให้สินเชื่อจากธนาคารและอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำสำหรับคนอังกฤษ ดังนั้นในปี 2564 ราคาบ้านในลอนดอนจึงปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 6%และเป็นที่คาดว่าราคาที่พักอาศัยจะเพิ่มขึ้นสูงสุด 18% ในอีก 5 ปีข้างหน้า”
“อีกปัจจัยหนึ่งคือความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการที่ผู้อยู่อาศัยต้องการพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ขึ้นและพื้นที่กลางแจ้งเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบทำงานจากบ้าน หรือ Work from Home โครงการบ้านจัดสรรในโซน 2 โซน 3 และชานเมืองจึงได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้มาตรการหยุดพักชำระภาษีอากรแสตมป์ หรือ Stamp Duty Holiday ยังช่วยกระตุ้นกำลังซื้อด้วยการยกเว้นภาษีในการซื้อบ้านที่มีราคาไม่เกิน 500,000 ปอนด์ซึ่งสิ้นสุดเมื่อเดือนมิถุนายน 2564 และการยกเว้นภาษีในการซื้อบ้านที่มีราคาไม่เกิน 250,000 ปอนด์ที่จะสิ้นสุดเดือนกันยายน 2564”
ราคาที่พักอาศัยที่เพิ่มขึ้นนี้ เป็นหนึ่งในสัญญาณเชิงบวกของการฟื้นตัวในตลาดอสังหาริมทรัพย์ลอนดอน จากการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยรัฐบาลอังกฤษได้มีการอนุมัติให้ฉีดวัคซีนตั้งแต่ปี 2563 ด้านผู้ซื้อที่พักอาศัยชาวต่างชาตินั้นมีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นตั้งแต่ก่อนที่จะมีการปรับเพิ่มภาษีอากรแสตมป์อีก 2% ในเดือนเมษายน 2564 และก่อนที่ค่าเงินปอนด์จะปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ซีบีอาร์อีเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะมีผลต่อผู้ซื้อต่างชาติในระยะสั้นเท่านั้นและผู้ซื้อต่างชาติจำนวนมากจะกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากสหราชอาณาจักรได้ประกาศยกเลิกการล็อกดาวน์แล้ว และการสนับสนุนผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์จากทั้งในประเทศและต่างชาติได้ถูกรวมอยู่ในแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
“ช่วงโควิด-19 ระบาด แน่นอนว่า ผู้ซื้อมีอำนาจในการต่อรองมากขึ้น โดยขึ้นอยู่กับความนิยมของแต่ละโครงการ ในบางโครงการนำเสนอแพ็คเกจเฟอร์นิเจอร์และการพาชมโครงการผ่านวิดีโอเพื่อดึงดูดผู้ซื้อ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ซื้อคนไทยที่ต้องการเป็นเจ้าของที่พักอาศัยในลอนดอน เพราะข้อเสนอและบริการเพิ่มเติมเหล่านี้ ประกอบกับความรู้และความคุ้นเคยตลาดอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนของผู้ซื้อ จะทำให้เกิดการตัดสินใจรวดเร็วขึ้น โดยผู้ซื้อต่างชาติที่ต้องการซื้อที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ในลอนดอนอย่างต่อเนื่องมาจากฝรั่งเศส ฮ่องกง อเมริกา และจีน นอกจากนี้ การเปิดพรมแดนของสหราชอาณาจักรที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะช่วยให้ผู้ซื้อต่างชาติเหล่านี้เข้ามาดูโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้ง่ายขึ้น”
เนื่องจากลอนดอนยังคงเป็นเมืองยอดนิยมสำหรับนักเรียนนักศึกษาและยังมีวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจ รวมถึงสถานที่ทางประวัติศาสตร์และความยืดหยุ่นด้านการเงินสูง ความต้องการจากผู้ซื้อต่างชาติที่มีฐานะดีจึงยังคงมีกลับมาอยู่เสมอ
“ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีในการลงทุนในตลาดที่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วแบบลอนดอน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนดึงดูดให้ผู้ซื้อต่างชาติกลับเข้ามาเสมอและยังมีปัจจัยเอื้ออำนวยต่างๆ ที่กล่าวในข้างต้นช่วยกระตุ้นให้ผู้ซื้อตัดสินใจ สำหรับคนไทย จุดประสงค์หลักที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนนั้นก็เพื่อหาที่พักอาศัยในต่างประเทศที่ดีที่สุดสำหรับลูกหลานเพื่อการศึกษาในระยะยาว เป็นการลงทุนที่สามารถส่งต่อเป็นมรดกของครอบครัวได้ การที่โรงเรียนและมหาวิทยาลัยในอังกฤษจะเปิดเทอมในเดือนกันยายนนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนชาวไทยที่เป็นเจ้าของที่พักอาศัยในลอนดอนที่จะปล่อยเช่าให้แก่นักเรียนต่างชาติหรือครอบครัวขนาดเล็กที่ต้องการเช่าที่พักอาศัยมากกว่าซื้อ” นางสาวปพิณริยา กล่าวสรุป