หลังจากที่ เอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส ประเทศไทย ผู้นำนวัตกรรมด้านยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ชั้นนำจากประเทศเยอรมนี ได้เปิดตัวรถบรรทุกหัวลาก 3 รุ่น ได้แก่ TGS 6×4 360 แรงม้า TGS 6×4 400 แรงม้า และ TGS 6×4 440 แรงม้า เมื่อปลายปีที่แล้ว ก็ได้รับการต้อนรับและการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการจากหลากหลายธุรกิจ ด้วยจุดเด่นของรถบรรทุกเอ็ม เอ เอ็น ไม่ว่าจะเป็น ตัวรถมาตรฐานระดับโลก การประกอบและนำเข้าทั้งคัน 100% จากประเทศเยอรมนี เทคโนโลยีของตัวรถที่ตอบโจทย์การใช้งานเพื่อเชิงพาณิชย์ และสร้างเสริมประสบการณ์การขับขี่ที่สบายและเป็นมิตรกับคนขับ รวมถึงบริการหลังการขายที่ครอบคลุมและคุ้มค่า
เอ็ม เอ เอ็น ได้มีการส่งมอบรถถึงมือลูกค้าผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี และวันนี้ เราจึงมีเสียงตอบรับจากลูกค้า เอ็ม เอ เอ็น ตัวจริง คุณมนัส โลหะวิทยวิกรานต์ และ คุณอากร โลหะวิทยวิกรานต์ ผู้บริหารสูงสุดของห้างหุ้นส่วนจำกัดโชควิกรานต์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการขนส่งรายใหญ่รายหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีที่อยู่ในแวดวงธุรกิจรถบรรทุกมายาวนานกว่า 50 ปี โดยคุณมนัสและคุณอากรได้บอกเล่าถึงความประทับใจ เมื่อตัดสินใจหันมาเลือกใช้รถบรรทุกจากฝั่งยุโรป เอ็ม เอ เอ็น มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ พร้อมยืนยันในสมรรถนะรวมถึงเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ของรถบรรทุกเอ็ม เอ เอ็น ที่ใช้งานง่ายและตอบโจทย์ความคุ้มค่าของธุรกิจสูงสุด รวมถึงการดูแลหลังการขายที่ยิ่งเพิ่มความคุ้มค่าในการดำเนินธุรกิจในระยะยาว
คุณยุทธนา สมประยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค-แมน ออโต้.เซอร์วิส จำกัด (ที่สองจากขวา) คุณจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้อำนวยการ (ที่สองจากซ้าย) และ คุณจุฬพงศ์ ภัทรมนัสกุล ผู้จัดการผ่ายขาย (ขวา) เอ็ม เอ เอ็น ประเทศไทย ส่งมอบรถหัวลาก TGS 400 แรงม้าล็อตที่ 2 ให้แก่ คุณมนัส โลหะวิทยวิกรานต์ (ที่สามจากขวา) และ คุณอากร โลหะวิทยวิกรานต์ (ที่สี่จากขวา) ผู้บริหารสูงสุดห้างหุ้นส่วนจำกัดโชควิกรานต์
รถบรรทุกยุโรปแบรนด์แรกที่ตัดสินใจซื้อ
คุณมนัสตัดสินใจซื้อรถบรรทุกเอ็ม เอ เอ็น เมื่อต้นปีที่ผ่าน นับเป็นการเปลี่ยนมาใช้รถบรรทุกแบรนด์ยุโรปเป็นครั้งแรก หลังจากใช้รถบรรทุกแบรนด์ญี่ปุ่นในการทำธุรกิจมาตลอด โดยคุณมนัสบอกเล่าถึงเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกซื้อรถบรรทุกเอ็ม เอ เอ็นว่า “ตลอดเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมา รถบรรทุกที่หจก. โชควิกรานต์ใช้งานเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นทั้งหมดซึ่งที่ผ่านมาก็ทราบถึงข้อดี ข้อเสีย จุดเด่น จุดด้อยของแต่ละแบรนด์ จนเมื่อเห็นว่าแบรนด์ เอ็ม เอ เอ็น เปิดตัวรถบรรทุกหัวลาก จึงรู้สึกมีความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งเราก็ทราบดีว่าเยอรมนีเป็นประเทศผู้นำด้านการผลิตและพัฒนารถบรรทุกมาอย่างยาวนาน ยิ่งรู้ว่าทุกคันนำเข้าแบบ CBU 100% ก็ยิ่งรู้สึกสนใจมากขึ้นอีก จึงได้มีโอกาสได้ลองเข้าไปดูตัวรถจริง และยิ่งพอได้พูดคุย ได้รับฟัง ข้อมูลจากผู้เชี่ยวจากทางแบรนด์และตัวแทนจำหน่าย อีกทั้งพอได้ทดลองขับเองจริงๆ ก็รู้สึกประทับใจในความทันสมัย เทคโนโลยีของตัวรถ รวมถึงได้ทดลองฟังก์ชั่นต่างๆ โดยเฉพาะระบบเกียร์ทำงานแบบกึ่งอัตโนมัติ MAN Tipmatic ก็รู้สึกถึงความแตกต่างจากระบบที่เคยใช้ เพราะระบบแบบอัตโนมัติช่วยเอื้อต่อการขับ ทำให้ขับได้ง่ายและสบายกว่า รวมถึงระบบอื่นๆของตัวรถเองก็ออกแบบมาให้ใช้งาน กลายเป็นว่าตัวรถช่วยสอนคนให้ขับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ตอบโจทย์ความคุ้มค่าธุรกิจและเป็นมิตรกับคนขับ
เอ็ม เอ เอ็น ได้ทำการส่งมอบรถบรรทุกเอ็ม เอ เอ็น ล็อตแรกให้แก่ หจก. โชควิกรานต์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตามด้วยล็อตที่สองเมื่อเดือนมิถุนายน รวมทั้งหมด 15 คัน และได้รับเสียงยืนยันความประทับใจหลังนำรถเอ็ม เอ เอ็น ออกใช้งานจริงในการขนส่งสินค้า จากหจก.โชควิกรานต์ คุณอากรถึงกับเอ่ยปากว่า “ถูกและดีมีอยู่จริง” พร้อมกล่าวถึงประสบการณ์และจุดเด่นของรถบรรทุกเอ็ม เอ เอ็น ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจอย่างเห็นได้ชัด “ด้วยระบบฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีช่วยให้การขนส่งและบรรทุกสินค้าเป็นไปได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงการออกแบบภายในห้องคนขับเองก็ออกแบบมาเพื่อช่วยผ่อนแรงคนขับ ลดความเหนื่อยล้าและขับขี่ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ทำให้คนขับของเราใช้เวลาน้อยลงในการวิ่งขนส่งแต่ละรอบ สามารถวิ่งทำรอบได้มากขึ้นและไม่เหนื่อยล้า ประสิทธิภาพของรถที่เอื้อต่อการขับขี่และบรรทุกสินค้าก็ทำให้เราสามารถบริหารจัดการฟลีตรถและคนขับได้ดีขึ้น ซึ่งก็ทำให้เราสามารถบริหารจัดการธุรกิจในภาพรวมได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ถือว่ารถบรรทุกเอ็ม เอ เอ็นที่เป็นโทคโนโลยีจากแบรนด์ยุโรปตอบโจทย์การทำธุรกิจของเราได้ดีมาก”
ถือเป็นหนึ่งเสียงสะท้อนจากผู้ใช้จริงที่ได้แชร์ความประทับใจจากการใช้งานรถบรรทุกเอ็ม เอ เอ็น พร้อมตอกย้ำ เอ็ม เอ เอ็น ในฐานะแบรนด์รถบรรทุกผู้นำจากเยอรมัน ที่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมธุรกิจของผู้ประกอบการไทย
นอกจากนี้ เอ็ม เอ เอ็น ยังตอบโจทย์ประสบการณ์การใช้งานรถบรรทุกให้แก่ลูกค้าเอ็ม เอ เอ็น ด้วยบริการดีๆมากมาย อาทิ MAN PROFIDRIVE บริการฝึกอบรมเพิ่มทักษะการขับขี่ให้กับคนขับรถบรรทุกเพื่อสร้างความมั่นใจและสามารถใช้งานรถบรรทุกเอ็ม เอ เอ็น ได้อย่างประหยัด คุ้มค่า เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงบริการหลังการขายที่ครอบคลุมและครบวงจรต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ฟรีสัญญาบริการบำรุงรักษา COMFORT เป็นระยะเวลา 3 ปี หรือ 300,000 กิโลเมตร ซึ่งมาพร้อมกับ บริการ Onsite Service ซ่อมบำรุงรักษาตามสัญญาบริการให้ถึงที่ทั่วประเทศไทย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 24 เดือนไม่จำกัดระยะทาง
สามารถติดตามข้อมูลและข่าวสารอื่นๆ ของ เอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส ประเทศไทย ได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก MAN Truck and Bus Thailand