21.2 C
Bangkok
Sunday, December 22, 2024
musubishi900x192px_2024
Honda_900x192px 2024
163732
AD Banner_900x180
FORD900x192px_1
Mitsubishi_900x192px_2
previous arrow
next arrow

เปิดตัว MICHELIN PILOT SPORT EV ยางมิชลินรุ่นแรกสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

เปิดตัว ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี’ (MICHELIN Pilot Sport EV) ยางรุ่นแรกในตระกูล ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต’ พัฒนาขึ้นเพื่อรถยนต์สปอร์ตไฟฟ้าโดยเฉพาะ การเปิดตัวนวัตกรรมยางครั้งนี้มุ่งรองรับแนวโน้มการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และตอกย้ำความมุ่งมั่นของมิชลินที่มีต่อการสัญจรอย่างยั่งยืน

คุณนันทิยา พิทักษ์วงษ์ดีงาม ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจ B2C ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2563 จำนวนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกพุ่งสูงถึงกว่า 10 ล้านคัน เป็นที่ชัดเจนว่ายานยนต์ไฟฟ้าคือแนวโน้มสู่อนาคตปี 2573 แต่ที่มิชลิน…เราต้องการสร้างอนาคตเรื่องการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าให้เกิดขึ้นเสียตั้งแต่วันนี้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงภูมิใจนำเสนอยาง มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี รังสรรค์ขึ้นจากประสบการณ์กว่า 6 ปี ของมิชลินในการแข่งขัน ‘ฟอร์มูลา อี’ ส่งผลให้ยางรุ่นนี้มีคุณสมบัติโดดเด่นในการส่งเสริมสมรรถนะของรถสปอร์ตไฟฟ้าให้ถึงขีดสุด ทั้งยังให้ความเพลิดเพลินและความปลอดภัยที่เหนือกว่าขณะขับขี่”

ยาง มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี ให้คุณสมบัติที่โดดเด่น อาทิ

* ศักยภาพในการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมทั้งบนถนนเปียกและถนนแห้ง3,4 ไม่ว่ายางจะสึกอยู่ที่ระดับใดก็ตาม5  โดยคำนึงถึงน้ำหนักตัวรถและการกระจายน้ำหนักที่มากกว่าของรถสปอร์ตไฟฟ้า

* ความสามารถในการต้านทานการสึกหรอที่โดดเด่น6 สามารถรองรับแรงเร่งและแรงบิดสูงอันเป็นลักษณะเฉพาะของรถสปอร์ตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

* แรงต้านทานการหมุนที่ต่ำมากของยาง มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี ส่งผลให้มีระยะทางวิ่งเพิ่มขึ้นถึง 60 กิโลเมตร ช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้งานรถสปอร์ตไฟฟ้าได้เต็มสมรรถนะถึงขีดสุด7

* ประสิทธิภาพในการลดระดับเสียงรบกวนลงได้ถึง 20% ด้วยเทคโนโลยี MICHELIN AcousticTM ซึ่งอยู่ในรูปโฟมโพลียูรีเธนที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร จึงให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่รถสปอร์ตไฟฟ้าที่เหนือกว่า1

ยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี’ ให้ประสบการณ์ที่เหนือกว่าซึ่งถ่ายทอดมาจากการแข่งรถ ‘ฟอร์มูลา อี’มิชลิน ในฐานะพันธมิตรผู้ก่อตั้งการแข่งรถ ‘ฟอร์มูลา อี’ (Formula E) มุ่งมั่นนำเสนอโซลูชั่นสำหรับรถพลังงานไฟฟ้าประเภทที่นั่งเดี่ยวซึ่งใช้ในการแข่งขัน ‘ฟอร์มูลา อี’  โดยยางมิชลินสำหรับการแข่งรถ รายการดังกล่าวมีลักษณะเหมือนกับยางสำหรับวิ่งบนถนนทางเรียบ แต่มีประสิทธิภาพสำหรับการแข่งขันประลองความเร็วในทุกสภาพอากาศ  ทั้งนี้ ขนาดยางซึ่งอยู่ที่ 19 นิ้ว เป็นไปตามมาตรฐานยางสำหรับรถยนต์ทางเรียบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

ยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี’ เป็นพัฒนาการจากความสำเร็จของมิชลินในการแข่งรถ ‘ฟอร์มูลา อี’กว่า 6 ฤดูกาล โดยมาพร้อมเทคโนโลยี ElectricGrip CompoundTM ใช้เนื้อยางที่มีความแข็งแกร่งสูงบริเวณตอนกลางของหน้ายาง จึงให้การยึดเกาะที่รองรับแรงบิดสูงของรถสปอร์ตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันแก้มยางยังมีลวดลายและลักษณะพื้นผิวคล้ายกำมะหยี่เช่นเดียวกับยางมิชลินที่ใช้ในการแข่งรถ ‘ฟอร์มูลา อี’ ด้วย

ยางที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ในกระบวนการก่อนการขาย ณ จุดขาย2

เพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ตลอดอายุการใช้งานยาง รวมทั้งเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่รถสปอร์ตไฟฟ้า มิชลินได้ให้คำมั่นที่จะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ในกิจกรรมการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการขนส่งผลิตภัณฑ์ยางไปยังจุดจำหน่าย  กระบวนการนี้ครอบคลุมการจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการต่างๆ ที่มุ่งชดเชยและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตยางและตกค้างอยู่ ผ่านกองทุนคาร์บอน Livelihoods Carbon Fund (LCF) จนกว่าจะสามารถขจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เหลือศูนย์

ปัจจุบัน มิชลินเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์เพียงรายเดียวที่มีบทบาทในตลาดยางรถสปอร์ตไฟฟ้า ทั้งประเภทยางมาตรฐานติดรถและยางเปลี่ยนทดแทน  ทั้งนี้ ยาง มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี จะเริ่มทยอยออกวางจำหน่ายในปี 2564 โดยมีให้เลือก 16 ขนาด (ยางมาตรฐานติดรถ 11 ขนาด และยางสำหรับเปลี่ยนทดแทน 5 ขนาด) สำหรับล้อขอบ 18-22 นิ้ว

อนึ่ง ยาง มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี ขนาด 20 นิ้ว ได้รับการรับรองให้ใช้งานกับรถยนต์ ‘เทสลา โมเดล วาย’ (Tesla Model Y) ทำตลาดในจีน ทั้งยังจะเป็นยางที่ทำตลาดทั่วโลก ครอบคลุมการใช้งานกับยานยนต์ในตลาดยุโรปและอเมริกาเหนือในปลายปี 2564  นอกจากนี้ มิชลินยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายในตลาดที่มีการเติบโตสูงให้ได้เป็น 8 เท่า ภายในปี 2567

ในประเทศไทย ยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี’ มีวางจำหน่ายผ่านการสั่งจองล่วงหน้า 7 ขนาด (ขอบ 19-22 นิ้ว) ณ เครือข่ายศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร ‘ไทร์พลัส’ และร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการมิชลินทั่วประเทศ  ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th หรือ MICHELIN Hotline 02-700-3993

1 ผลการวัดระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร (ช่วงความถี่ 170-230 เฮิรตซ์) ซึ่งดำเนินการเมื่อปี 2559 โดยใช้รถ KIA Cadenza ที่ติดตั้งยางขนาด 245/45 R19  ทั้งนี้ เป็นการวัดระดับเสียงรบกวนที่ช่วงความถี่ 170-230 เฮิรตซ์ ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรถยนต์ที่ใช้ ขนาดและระยะวิ่งของยาง ความเร็วในการขับขี่ ตลอดจนสภาพถนน  

2 มิชลินสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากพื้นที่โรงงานลงได้ถึงร้อยละ 25 มาตั้งแต่ปี 2553 และตั้งเป้าที่จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593  ทั้งนี้ มิชลินได้สนับสนุนเงินทุนให้กับโครงการต่างๆ ที่มุ่งดูดซับหรือหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้ได้รับคาร์บอนเครดิตจากโครงการเหล่านี้เทียบเท่ากับระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตกค้างในกระบวนการผลิตยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี’ (ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบไปจนถึงการจัดส่งผลิตภัณฑ์ยางให้กับลูกค้า) อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Livelihoods Carbon Fund ได้ที่: https://www.michelin.com/en/sustainable-development-mobility/environment/

3 มิชลินได้ทำการศึกษาเรื่องความหนึบในการเข้าโค้งเมื่อเดือนตุลาคม 2563 โดยนำยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี’ และยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต 4 เอสยูวี’ ขนาด 255/45 R19 มาทดสอบเปรียบเทียบสมรรถนะด้วยเครื่องจักรกล

4 ยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี’ ได้รับฉลาก EU ระดับ B ในเรื่องประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนเปียก

5 ยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี’ ขนาด 255/45 R19 ที่นำมาทดสอบ ทั้งยางใหม่และยางใกล้หมดดอก [“ใกล้หมดดอก” ในที่นี้หมายถึงถูกทำให้สึกหรอด้วยเครื่องจักรจนลึกถึงสะพานยาง ตามระเบียบข้อบังคับของยุโรปเรื่องสะพานยาง (ECE R30r03f)] ล้วนมีคุณสมบัติเหนือกว่ามาตรฐานข้อกำหนดเรื่องประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนเปียกตามระเบียบข้อบังคับของยุโรปที่ R117

6 โครงสร้าง MaxTouch Construction ช่วยเพิ่มหน้าสัมผัสระหว่างยางล้อกับพื้นผิวถนน ทั้งยังช่วยกระจายแรงกดให้สม่ำเสมอตลอดหน้ายางขณะเร่งความเร็ว เบรก และเข้าโค้ง ส่งผลให้หน้ายางมีอายุใช้งานยาวนานขึ้น ทั้งยังให้สมรรถนะดีดังเดิม

7 มิชลินได้ทำการศึกษาเรื่องแรงต้านทานการหมุนของล้อเมื่อเดือนตุลาคม 2563 โดยเปรียบเทียบระหว่างยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี’ (แรงต้านทานการหมุน 6.7 กิโลกรัม/ตัน) และยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต 4 เอสยูวี’ (แรงต้านทานการหมุน 8.8 กิโลกรัม/ตัน) ที่ขนาด 255/45 R19 เท่ากัน โดยใช้รถพลังงานไฟฟ้าที่มีน้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 2,151 กิโลกรัม ซึ่งจะวิ่งได้ระยะทาง 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง แรงต้านทานการหมุนของล้อที่ต่างกัน 2.1 กิโลกรัม/ตันส่งผลให้ระยะทางวิ่งของยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี’ เพิ่มขึ้นอีกกว่า 60 กิโลเมตร หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 10 ของระยะทางประเมินเบื้องต้น 

Related Articles

Stay Connected

0FansLike
3,912FollowersFollow
22,100SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles