“Spirit of Ecstasy ยังคงเป็นแรงบันดาลใจของเราในการมุ่งสู่ความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง เธอเป็นตัวแทนของสิ่งที่เรายืนหยัดในฐานะ House of Rolls-Royce นั่นคือความมุ่งมั่นเพื่อความสมบูรณ์แบบ ความใส่ใจในรายละเอียด และความงามเหนือกาลเวลา มันเป็นความน่าทึ่งที่ได้เห็นไอคอนของเราถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นผลงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์ทั้งสามชิ้นนี้ซึ่งเป็นการผลักดันขอบเขตทางเทคนิคและแนวความคิด ผมขอขอบคุณ บี รนรอง (Bi Rongrong) จีซเลน ซาลี (Ghizlaine Sahli) และสกาเล็ต หยาง (Scarlett Yang) สำหรับผลงานชิ้นเอกที่ไม่ธรรมดาของพวกเขาในการเฉลิมฉลองมิติที่แตกต่างของสัญลักษณ์ของเรา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอนาคตที่น่าตื่นเต้นของงานการออกแบบสิ่งทอ”
Anders Warming, Director of Design, Rolls-Royce Motor Cars : Muse โครงการศิลปะของโรลส์-รอยซ์เฉลิมฉลองการเปิดตัวผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์โดยผู้ชนะการประกวดโครงการ Spirit of Ecstasy Challenge ครั้งแรกของโลก
ในฐานะโครงการราย 2 ปี Spirit of Ecstasy Challenge เชิญชวนศิลปินหน้าใหม่หลากสาขาให้มาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่มีแรงบันดาลใจจากสัญลักษณ์แห่ง Rolls-Royce ซึ่งเป็นประติมากรรมที่ประดับบนฝากระโปรงหน้าของยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ทุกคันนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2454 ในการแข่งขันแต่ละครั้งจะมุ่งเน้นไปที่การใช้วัสดุที่แตกต่างกันท้าทายให้ผู้เข้าร่วมโครงการร่วมผลักดันขอบเขตทางเทคนิคและแนวคิด โดยวัสดุที่ถูกเลือกสำหรับการแข่งขันในปีพ.ศ. 2565 คือสิ่งทอ ที่ท้าทายศิลปินที่เข้าร่วมโครงการให้ทดลองความเป็นไปได้ของวัสดุและสร้างสรรค์ผลงานที่ใช้สิ่งทอเป็นหลัก
ผู้ชนะการประกวดครั้งนี้ ได้แก่ บี รนรอง (Bi Rongrong) จีซเลน ซาลี (Ghizlaine Sahli) และสกาเล็ต หยาง (Scarlett Yang)ได้รังสรรค์สามผลงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์จากการตีความสัญลักษณ์แห่ง Rolls-Royce ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างสรรค์ ศิลปินได้พบกับช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ของโรลส์-รอยซ์เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ก่อนที่จะสร้างสรรค์ผลงานของพวกเขาให้เป็นรูปธรรม
บี รนรอง กับผลงาน STITCHED URBAN SKIN
ผลงาน Stitched Urban Skin (2022) ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์หลากหลายชั้นของเมืองและเงาสะท้อนที่น่าหลงใหลบนพื้นผิวมันวาวของ Spirit of Ecstasy งานศิลปะที่ถักทอวัสดุทั้งเก่าและใหม่เข้าด้วยกันประกอบด้วยแผ่นโลหะสองมิติที่ถูกยึดกับโครงลวดแขวนสามชั้นซึ่งทำจากโลหะที่ผ่านการเคลือบผิวพิเศษ แผ่นไฟ LED แบบเคลื่อนไหว และแผ่นอะคริลิก Perspex ที่ผสมผสานวัสดุที่สร้างขึ้นโดยใช้เทคนิคการถักโครเชต์แบบจีนโบราณ การใช้โลหะในการรังสรรค์ผลงานได้รับแรงบันดาลใจจากพื้นผิวตัวถังโรลส์-รอยซ์และเป็นการแสดงความเคารพต่อฝีมืองานหัตศิลป์อันยอดเยี่ยมของ Home of Rolls-Royce ผลงานชิ้นนี้ดึงเอาข้อมูลภาพเมืองจากคลังเอกสารของ บี และรังสรรค์โดยใช้ทั้งเทคนิคงานฝีมือแบบโบราณและเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่โดยผสมผสานสถานที่และประวัติศาสตร์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน
“งานชิ้นนี้ไม่ได้มีแรงบันดาลใจมาจากสิ่งเดียว แต่เป็นการผสมผสานรูปแบบที่เชื่อมโยงกับเมืองและธรรมชาติซึ่งมีความคล้ายคลึงกับวิถีที่พวกเขาเติบโตขึ้นมาค่อนข้างมาก ผู้คนต่างมองเห็นเฉพาะสิ่งที่อยู่บนพื้นผิว นั่นคือ สถาปัตยกรรมและต้นไม้ แต่ภายใต้สิ่งเหล่านั้นมีรากที่เกี่ยวพันกันซ่อนตัวอยู่” บี กล่าวและยังกล่าวเสริมอีกว่า “ทีมงานของ Rolls-Royce ให้อิสระในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะแก่ฉันอย่างเต็มที่ สนับสนุนให้ฉันลองสิ่งใหม่ ๆ และมีความกล้าอย่างแท้จริง ฉันทดลองและเปลี่ยนผลงานทั้งชิ้นหลายครั้ง ซึ่งท้ายที่สุดก็ยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก ประสบการณ์ครั้งนี้ได้ทำให้ฉันเห็นความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และได้เปิดมุมมองที่แตกต่างออกไป ซึ่งฉันจะนำมาใช้กับการทำงานในอนาคต”
จีซเลน ซาลี กับผลงาน NISSA’S RINA (WOMAN’S SONG)
ผลงาน Nissa’s Rina (Woman’s Song) (2022) ของซาลี มีลักษณะคล้ายกับปีกแห่งชัยชนะสองปีกที่กำลังจะโบยบิน เป็นงานศิลปะที่เฉลิมฉลองที่สนุกสนานของความเป็นอิสตรีและเสรีภาพ งานศิลปะสำรวจความงามของการแปรสภาพและการประกอบขึ้นใหม่จากวัสดุเหลือใช้เกือบทั้งหมด ได้แก่ ขวดพลาสติก หลอดพลาสติก ฝาขวดและห่อหุ้มด้วยไหมสีขาวและด้ายสีทองที่ซื้อมาจากช่างฝีมือในย่านเมดินาแห่งเมือง
มาราเกช และทองแดงตกแต่งด้วยแผ่นทองคำเปลว สำหรับ Nissa’s Rina (Woman’s Song) ซาลีใช้เทคนิคเฉพาะของเธอในการห่อขวดที่ตัดด้วยด้าย “Alveoli” และสร้างแต่ละองค์ประกอบให้กลายเป็นโครงสร้างคล้ายปีกที่ชวนให้นึกถึง Spirit of Ecstasy
ผลงาน Nissa’s Rina (Woman’s Song) (2022) ของซาลี มีลักษณะคล้ายกับปีกแห่งชัยชนะสองปีกที่กำลังจะโบยบิน เป็นงานศิลปะที่เฉลิมฉลองที่สนุกสนานของความเป็นอิสตรีและเสรีภาพ งานศิลปะสำรวจความงามของการแปรสภาพและการประกอบขึ้นใหม่จากวัสดุเหลือใช้เกือบทั้งหมด ได้แก่ ขวดพลาสติก หลอดพลาสติก ฝาขวดและห่อหุ้มด้วยไหมสีขาวและด้ายสีทองที่ซื้อมาจากช่างฝีมือในย่านเมดินาแห่งเมือง
มาราเกช และทองแดงตกแต่งด้วยแผ่นทองคำเปลว สำหรับ Nissa’s Rina (Woman’s Song) ซาลีใช้เทคนิคเฉพาะของเธอในการห่อขวดที่ตัดด้วยด้าย “Alveoli” และสร้างแต่ละองค์ประกอบให้กลายเป็นโครงสร้างคล้ายปีกที่ชวนให้นึกถึง Spirit of Ecstasy
“Spirit of Ecstasy หญิงผูสง่างามและเป็นอิสระที่ประดับอยู่บน
ยนตรกรรมอันทรงเกียรติที่สุดในโลก สัญลักษณ์แห่งอำนาจเมื่อเธอสยายปีกออกเพื่อโบยบิน และครองโลก ช่างเป็นเรื่องบังเอิญสำหรับฉัน! เธอมีทุกอย่างที่ฉันอยากจะแสดงออกถึงชีวิตของฉันในวันนี้” ซาลี กล่าว “Nissa’s Rina บทเพลงแห่งอิสตรีมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงออกถึงความสง่างาม ความเป็นผู้หญิง และเสรีภาพของ Spirit of Ecstasy”
Transient Materiality (2022) โดยสกาเล็ต หยาง เป็นงานไฮบริดที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนทางกายภาพและดิจิทัลประติมากรรมขนาดความสูง 1 เมตรนี้ทำมาจากริบบิ้นชีวภาพสังเคราะห์ที่พันกันซึ่งผลิตขึ้นจากอนุภาคของเหลวที่รวบรวมจากมหาสมุทรและเชื่อมด้วยสิ่งมีชีวิตที่สังเคราะห์แสงจากสาหร่าย
ทั้งนี้ รูปร่าง พื้นผิว และสีของประติมากรรมล้วนสะท้อนถึงโลกธรรมชาติ พื้นผิวที่เป็นเอกลักษณ์ได้รับแรงบันดาลใจจากความซับซ้อนที่ละเอียดอ่อนของลวดลายหนังสัตว์และความยืดหยุ่นทางโครงสร้างของปีกแมลงปอที่โปร่งแสง ผลิตขึ้นโดยการเทไบโอพอลิเมอร์เหลวลงในแม่พิมพ์ 3 มิติ ในขณะที่เฉดสีเขียวและม่วงของริบบิ้นถูกสร้างขึ้นจากการทดลองกับสาหร่ายสไปรูลิน่าและส่วนประกอบทางธรรมชาติอื่น ๆ
ชิ้นงานที่แขวนลอยอยู่ในอากาศสะกดทุกสายตาด้วยคุณสมบัติที่ส่องประกายแวววาว เป็นการแสดงออกถึงความสง่างามที่ไร้ตัวตน ชวนให้นึกถึงเสื้อคลุมที่ปลิวไสวไปตามลมของ Spirit of Ecstasy องค์ประกอบดิจิทัลคือส่วนที่เป็นภาพยนต์สารคดีเกี่ยวกับกระบวนการสร้างสรรค์ ตลอดจนการสร้างภาพแบบจำลองประติมากรรมดิจิทัล ก่อให้เกิดทัศนียภาพของเสียงแห่งอนาคต
“งานของฉันประกอบด้วยการสำรวจคุณสมบัติทางกายภาพที่ธรรมชาติมอบให้และเสริมสร้างคุณสมบัติเหล่านี้ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่แพร่หลายด้วยความละเอียดรอบคอบ ผลงาน ‘Transient Materiality’ มีจุดมุ่งหมายสูงสุดเพื่อเสริมความงามให้แก่ร่างกายมนุษย์ในขณะที่ให้แนวทางเชิงบวกอย่างแท้จริงสำหรับอนาคตของการออกแบบ” สกาเล็ต หยาง กล่าวแสดงความคิดเห็น Challenge และนำเสนอให้กับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้พิจารณา ประกอบด้วย แอนเดอร์ส วอร์มมิง (Anders Warming) ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ Rolls-Royce Motor Cars ยูน อัน (Yoon Ahn) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ AMBUSH® และผู้อำนวยการฝ่ายเครื่องประดับที่ Dior Men ทิม มาร์โลว์ (Tim Marlow) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์การออกแบบในกรุงลอนดอน และซูมายา แวลี ( Sumayya Vally) ผู้ก่อตั้งและเจ้าของ Counterspace Studio ในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก โดยในเดือนเมษายน 2565 Muse ได้ประกาศรายชื่อผู้ชนะที่ได้รับเลือกให้รังสรรค์ผลงานให้เป็นรูปธรรมโดยได้รับการสนับสนุนจาก Rolls-Royce
Spirit of Ecstasy Challenge เป็นโครงการริเริ่มโครงการที่สองของ Muse ขณะที่โครงการ Dream Commission ให้การสนับสนุนศิลปินที่ทำงานเกี่ยวกับศิลปะภาพเคลื่อนไหว ส่วนโครงการ Spirit of Ecstasy Challenge นั้นได้เฉลิมฉลองความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่สิ้นสุดที่มีอยู่ในโลกแห่งวัสดุและงานหัตถศิลป์ โครงการ Spirit of Ecstasy Challenge จะจัดขึ้นทุก 2 ปี โดยในการแข่งขันแต่ละครั้งจะมุ่งเน้นไปที่ความเป็นไปได้อย่างไร้ข้อจำกัดในการใช้วัสดุที่แตกต่างกันไปจนถึงการทำงานหัตถศิลป์ของ Rolls-Royce โดยมี Spirit of Ecstasy เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน
