Mitsubishi Xpander ใครจะคุ้นชินเรียกว่า รถครอบครัวขนาดเล็กหรือ MINI MPV หรือครอสโอเว่อร์ หรือรถแวนก็ตาม แต่ในช่วงที่ผ่านมา นับตั้งแต่เปิดตัวเจเนอเรชั่น 1 เรื่อยมาถึงเจนเนอเรชั่น 2 เป็นรถที่มียอดขายสูงกว่าคู่แข่ง ทั้ง Suzuki Ertika Suzuki XL7 หรือแม้กระทั่ง Honda BR-V ซึ่งผลิตและนำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย
มาล่าสุดคันนี้ NEW Mitsubishi Xpander Cross มิตซูบิชิให้นิยามว่าเป็น ครอสโอเว่อร์ 7 ที่นั่ง ที่ผสานความเป็น SUV และ MPV เข้าไว้ด้วยกันพร้อมชูไฮไลท์ ด้วยแนวคิด Live Life Adventure เพราะชีวิต ไม่ได้มีแค่มุมเดียว สนุกกับทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิต ผ่านเทคโนโลยีใหม่เพื่อการขับขี่ที่มั่นใจและคุ้มค่ามากขึ้น “AYC : Active Yaw Control”
ขณะที่ระบบความปลอดภัยอื่นๆ ก็มีมาให้ครบ เช่น ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Active Stability Control: ASC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control System: TCL) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA) ระบบไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ (Emergency Stop Signal System: ESS) ถุงลมนิรภัยคู่หน้า คานเหล็กนิรภัยกันกระแทกบริเวณแผงประตูและการออกแบบตัวถังด้านหน้าช่วยลดความรุนแรงจากแรงกระแทกของรถที่เกิดขึ้นกับคนเดินถนน ด้วยระยะความสูงจากพื้น 220 มิลลิเมตร ทำให้รถรุ่นนี้โดดเด่นเหนือกว่ารถรุ่นอื่นๆ ในประเภทเดียวกัน เสริมทัศนวิสัยที่ดีกว่าและการขับขี่ที่เหนือกว่า มั่นใจในทุกสภาพถนนด้วยช่วงล่างและระบบกันสะเทือนที่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงใหม่ให้ความนุ่มนวล นั่งสบาย และยึดเกาะถนนเป็นอย่างดี
รูปลักษณ์และการตกแต่งภายในห้องโดยสาร อัพเกรดให้ดูไฉไลสดใหม่กว่าเดิมและคู่แข่งในตลาด ผสามความเฉี่ยวเข้ากับหรูหรา ตอบโจทย์ทุกมิติครอบครัวยุคใหม่ ห้องโดยสาร พัฒนาขึ้นมาอีกขั้นภายใต้ตัวถังและโครงสร้างเดิม พร้อมโชว์จุดขายเบาะนังหนังสีทูโทน ดำ-น้ำเงิน ที่สะท้อนความร้อน จอแสดงข้อมูลขับขี่ (Dashboard) แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว แสดงผลข้อมูลที่จำเป็นครบครัน พวงมาลัย 4 ก้านหุ้มหนังดีไซน์ใหม่ พร้อม Cruise Control บนพวงมาลัย (ไม่มีโอกาสได้ลอง) สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย
นอกจากความสะดวกสบายความโอ่โถงห้องโดยสาร ทำให้นั่งได้เพลิดเพลินไปกับฟีเจอร์ล้ำๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอระบบสัมผัส 9 นิ้ว รองรับ Bluetooth การเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเบรกมือไฟฟ้าและระบบ Brake Auto Hold ช่องต่ออุปกรณ์ USB-A และ USB-C ช่องจ่ายกระแสไฟ DC 12 โวลต์ ระบบปรับอากาศด้านหลังแยกอิสระ แผงควบคุมและช่องแอร์ผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังตัดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังมีระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลที่มีแผ่นกรองอากาศ PM 2.5
ขุมพลังเบนซินไมเวค 1.5 ลิตร 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที เกียร์ออโต้ ECO-Dynamic CVT ยังให้สมรรถนะขับขี่ที่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมันเช่นเคย
ระบบช่วงล่าง บนทางออนโรดนุ่มนวล ไม่ถึงแน่น แต่ก็หนึบไว้วางใจได้ ขับในเมืองคล่องตัว ทัศนวิสัยกว้าง วงเลี้ยวแคบ ช่วงล่างและระบบกันสะเทือนปรับปรุงใหม่ นุ่มนวล นั่งสบาย ยึดเกาะถนนดีกว่าเดิม
แต่ที่เป็นไฮไลท์โดนๆ เหนือกว่าคู่แข่งระดับเดียวกันคือ สมรรถนะบนทางกึ่งออฟโรด ทางฝุ่น เพื่อการผจญภัยออกทริปเอาท์ดอร์กับคนรู้ใจหรือครอบครัว รถสไตล์นี้ตอบโจทย์ได้ดี
ไฮไลท์โดนๆ ที่ว่านี้คือ ระบบ AYC (แอคทีฟ ยอ คอนโทรล) ด้วยแนวคิด Live Life Adventure เพราะชีวิต ไม่ได้มีแค่มุมเดียว สนุกกับทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิต ให้ทุกเส้นทางทุกการขับขี่ระหว่างเดินทางมีสีสัน ระบบขับขี่ใหม่ ช่วยให้มั่นใจในขณะขับเข้าโค้ จะช่วยควบคุมขับเคลื่อนให้เข้าโค้งกระชับแม่นยำ ปลอดภัยกว่า แก้อาการ Oversteer / Understeer ล้อหน้าไถลขล้อหลังสะบัดตุปัดตุเป๋
จากที่ทดสอบในทางกึ่งออฟโรด AYC ทำงานได้เข้าท่าเข้าทางดีนะ เพิ่มสมรรถนะเข้าโค้งและรักษาเสถียรภาพขับขี่ได้ดีบนถนนที่เปียกลื่น ทางกึ่งออฟโรด ปีนไต่ทางเอียง ลุยน้ำสบาย แถมยังมีโหมดแสดงการทำงานให้เห็นด้วย ขณะที่ระบบ TRC ช่วยป้องกันอาการลื่นไถลล้อฟรี ก็เข้าท่าเช่นกัน แบบนี้เอาไปลุยน้ำ ทางลื่น ทางออฟโรด ค่อยอุ่นใจหน่อย
NEW Mitsubishi Xpander Cross ราคาค่าตัว 946,000 บาท เพิ่มจากรุ่นก่อนหน้า 7,000 บาท ถึงจะแรงกว่าคู่แข่งบางรุ่น แต่ก็ได้ความสดใหม่ และฟีเจอร์ใหม่มาช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน และเพื่อผจญภัยไปกับครอบครัว
ส่วนจะโดนใจคุณหรือไม่ แวะไปลองขับกันดูนะครับ ที่โชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศไทย
