ปตท.เผยผลการวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 20-24 ก.ย.64 และแนวโน้ม 27 ก.ย.-1 ต.ค.64 โดยตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเบรนท์ (ICE Brent) ราคา 75.96 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +1.24 ตลาดน้ำมันสำเร็จรูป เวสท์เท็กซัสฯ (NYMEX WTI) ราคา 72.06 เหรียญ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +0.44 เหรียญ สหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปดูไบ (Dubai) ราคา 73.41 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +0.95 เหรียญ สหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปซื้อซื้อขายล่วงหน้าประเทศสิงคโปร์ ราคาเบนซินออกเทน 95 ปรับราคาเพิ่มขึ้น +1.2 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 85.07เหรียญ สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดีเซลราคาปรับราคาเพิ่มขึ้น +1.86 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 84.04 เหรียญสหรัฐฯ
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
* Energy Information Administration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 17 ก.ย.64 ลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 414 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์และต่ำที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี
* ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Fed Funds Rate) ที่ระดับ 0-0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ โดย Jerome Powell ประธาน Fed ส่งสัญญาณอาจเริ่มต้นลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากระดับปัจจุบันที่ 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นในเดือน พ.ย. 64 หากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
* Petroleum Planning and Analysis Cell (PPAC) ของอินเดีย รายงานปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบในเดือน ส.ค. 64 เพิ่มขึ้น 15.88% จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 4.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
* Confederation of British Industry (CBI) ของอังกฤษรายงานผลสำรวจแนวโน้มคำสั่งซื้อของภาคอุตสาหกรรม (Industrial Trends Orders) เดือน ก.ย. 64 เพิ่มขึ้น 4 จุด จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ +22 จุด สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
* Baker Hughes Inc. รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะ (Rig) น้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 24 ก.ย.64 เพิ่มขึ้น 10 เเท่น จากสัปดาห์ก่อนหน้า อยู่ที่ 421 แท่น สูงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย. 63
* Bank of America (BofA) ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโต (GDP) ของจีนในปี 2564, 2565 และ 2566 มาอยู่ที่ +8%, +5.3% และ +5.8% จากปีก่อนหน้า ตามลำดับ ลดลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ระดับ +8.3%, +6.2% และ +6% จากปีก่อนหน้า ตามลำดับ
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent ทะยานเหนือระดับ $79/BBL สูงที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี เนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่เคยคาดไว้ และอุปทานน้ำมันตึงตัวจากผลกระทบของฤดูเฮอริเคนในสหรัฐฯ
ล่าสุดวาณิชธนกิจ Goldman Sachs คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ Brent ในไตรมาสที่ 4/64 และปี 2565 อยู่ที่ $85/BBL และ $81.3/BBL ปรับเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ก่อนหน้า $10/BBL และ $6.3/BBL ตามลำดับ และคาดการณ์ราคานั้นดิบ WTI ในไตรมาสที่ 4/64 และปี 2565 อยู่ที่ $82/BBL และ $78.3/BBL ปรับเพิ่มขึ้น $10/BBL และ $6.3/BBL เช่นเดียวกัน
ให้จับตาผลนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีของเยอรมัน ซึ่งมีการเลือกตั้ง 25 ก.ย.64 โดยขณะนี้ เอ็กซิตโพลของ ZDF รายงานว่าพรรค Social Democrats (SPD) ได้รับคะแนนเสียง 26.0% ส่วนพรรค CDU/CSU ได้ 24.5% เป็นการปราชัยครั้งแรกของ CDU/CSU ในรอบ 16 ปีหลังจาก Angela Merkel ไม่ลงสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้และประกาศยุติบทบาททางการเมือง
ทั้งนี้ ควรติดตามการประชุมสภาพภูมิอากาศ COP26 ของสหประชาชาติ (UN) ระหว่าง 31 ต.ค.-12 พ.ย.64 ที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ที่คาดว่าจะมีการประกาศแผนดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายใหม่ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว
ทางเทคนิคราคาน้ำมัน ICE Brent ในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 76 ถึง 82 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล