ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้นำธุรกิจรีเทลของไทย ชู 4 จุดแข็งเสริมความแข็งแกร่งครองตำแหน่งผู้นำแฟชั่นเดสติเนชั่น เปิดตัวแคมเปญ “Central Edition” ให้ลูกค้าได้อัปเดตเทรนด์ซัมเมอร์ปี 2023 และช้อปคอลเลกชันใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ดังระดับโลกและแบรนด์ไทยชั้นนำ เสริมทัพด้วยบริการสุดพิเศษ ตอกย้ำว่าห้างเซ็นทรัลคือจุดหมายของการช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักช้อปด้วยช่องทางช้อปปิ้งออมนิชาแนลที่หลากหลายและดีที่สุดของเมืองไทยตอบรับความไว้วางใจอันดับหนึ่งจากลูกค้าทั่วประเทศ
ธาพิดา นรพัลลภ ประธานบริหาร ฝ่ายบริหารสินค้ากลุ่มแฟชั่น บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ห้างเซ็นทรัลเป็นFashion Destination ที่ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจ ด้วยการนำเข้าแมกกาซีนจากต่างประเทศให้คนไทยได้อัปเดตเทรนด์แฟชั่นในสมัยนั้น ต่อยอดสู่การนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปแบรนด์ดังให้คนไทยได้ช้อปปิ้ง ซึ่งถือเป็นการปลุกธุรกิจแฟชั่นในไทยและเปลี่ยนทิศทางการแต่งตัวของคนไทยมาตลอดนับตั้งแต่นั้น จากการซื้อผ้ามาตัดเย็บเป็นชุด กลายมาเป็นการซื้อชุดสำเร็จรูปที่มีดีไซน์ทันสมัยและเป็นแบรนด์ดังที่ไม่มีขายในเมืองไทยมาก่อน ทำให้ ‘ห้างเซ็นทรัล’ เป็นจุดหมายแห่งแฟชั่นที่คนไทยนึกถึงเป็นที่แรก เพราะใครที่อยากดูดี ดูโมเดิร์น ก็ต้องมาช้อปที่นี่ นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเราไม่เคยหยุดพัฒนา ‘แผนกแฟชั่นของห้างเซ็นทรัล’ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประเภทสินค้า เพิ่มแบรนด์ใหม่ทั้งแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศและแบรนด์ไทยที่กำลังเป็นที่นิยม ทำให้ตัวเลือกสินค้ามีความน่าสนใจแปลกใหม่หลากหลาย และครบครันทุกความต้องการอยู่เสมอ รวมถึงการพัฒนาบริการ เติมเต็มสิทธิประโยชน์ต่างๆ พร้อมทั้งแคมเปญแฟชั่นน่าสนใจและมีกิมมิคใหม่ๆให้ลูกค้าได้สนุกไปกับการช้อปพร้อมกับการแต่งตัว ไปจนถึงการอัปเดตเทรนด์และคอลเลกชั่นใหม่ๆ โดยแคมเปญ Central Edition ในครั้งนี้ จะช่วยบอกเล่าเทรนด์ซัมเมอร์ พร้อมนำเสนอสินค้าแฟชั่นในรูปแบบใหม่ให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินกับการแต่งตัว ทั้งนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของแผนกแฟชั่นในทุกมิติและการกลับมาของนักท่องเที่ยว เราคาดว่าปีนี้จะมีลูกค้าช้อปปิ้งกับห้างเซ็นทรัล (Transaction) เพิ่มขึ้น 30% ทั้งที่ห้างและออนไลน์”
จุดแข็งเสริมแกร่งของห้างเซ็นทรัล ในการเป็นผู้นำ Fashion Destination ของเมืองไทย
1.ครบครันทุกไอเทม หลากหลายแบรนด์ดัง (The Best-in-class Product Assortment & Services)
ห้างเซ็นทรัลรวบรวมสินค้าแฟชั่นไว้ครบครันและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าในกลุ่มของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายทั้งของผู้หญิง ผู้ชาย วัยรุ่น และเครื่องประดับต่างๆ ที่ตอบโจทย์สไตล์การแต่งตัวของคนทุกกลุ่ม โดยรวบรวมแบรนด์ดังทั้งไทยและต่างประเทศไว้กว่า 1,000 แบรนด์ ทั้งที่ห้างและออนไลน์ พร้อมเสริมทัพด้วยแบรนด์ใหม่และนำเสนอสินค้าในกลุ่ม Sustainable Fashion เพื่อตอบรับเทรนด์รักษ์โลกในปัจจุบัน รวมทั้ง
ต่อยอดและพัฒนาสินค้าแฟชั่นท้องถิ่นร่วมกับเหล่าไทยดีไซน์เนอร์เพื่อออกแบบสินค้าคอลเลกชันพิเศษนำมาจำหน่ายที่ห้างฯ สร้างความยั่งยืนให้ชุมชนและผลักดันวัฒนธรรมที่มีศักยภาพของไทยและเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์ ตอบรับยุทธศาสตร์ 5F หรือ Soft Power ของภาครัฐ ให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รู้จัก สัมผัส และมีตัวเลือกในการช้อปเพิ่มขึ้น รองรับความต้องการและเทรนด์ของลูกค้าที่หันมาช้อปสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์มากขึ้น สอดคล้องกับการคาดการณ์ว่าตลาดสินค้าแฟชั่นของไทยจะมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 3.72% ต่อปี
2.สร้างสรรค์และนำเสนอแรงบันดาลใจแห่งแฟชั่นอย่างไม่สิ้นสุด (Exciting Newness for Endless Inspirations)
ไม่เพียงแต่คัดสรรสินค้าที่หลากหลายและมีคุณภาพมาจำหน่าย แต่ “ห้างเซ็นทรัล” ยังรังสรรค์และนำเสนอแฟชั่นเทรนด์ผ่านช่องทางต่าง ไม่ว่าจะเป็น Window Display ที่ห้างเซ็นทรัลเป็นผู้ริเริ่มจนเป็นที่กล่าวขานถึงไอเดียอันล้ำสมัย ทำให้ลูกค้าได้ค้นพบแฟชั่นเทรนด์ใหม่ล่าสุด และสามารถสร้างไอเดียการสวมใส่สินค้าแฟชั่นได้ขณะเดินช้อป รวมถึงการทำ Visual Merchandise Ffpจัดวางสินค้าให้มีความน่าสนใจ การ Mix and Match
merchandise การจัดวางกลุ่มสินค้าให้มีความหลากหลายง่ายต่อการช้อป การจัด Pop up สินค้า เพื่อเพิ่มความโดดเด่น สะดุดตาให้กับสินค้า และการจัดกิจกรรมอีเว้นต์ต่างๆ ที่ช่วยให้ลูกค้าเห็นทั้งเทรนด์และสินค้ามากขึ้น พร้อมเพิ่มความสนใจให้กับสินค้าต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ ยังคิดค้นแคมเปญต่างๆ เพื่อตอกย้ำและสร้าง Branding ให้แผนกแฟชั่นอย่างแข็งแกร่ง อาทิ แคมเปญ Central Street Fashion Fest, Central Denim Weeks, Central Lingerie Secret, Central Luxe Galerie ฯลฯ โดยปีนี้ ได้เปิดตัวแคมเปญพิเศษ “Central Edition” เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำและจุดหมายแห่งการช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่นของเมืองไทยให้ลูกค้าได้สนุกกับการแต่งตัวในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วยสินค้าคอลเลกชันใหม่ พร้อมอัดกลยุทธ์การตลาดและจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างสีสันให้กับซัมเมอร์ในครั้งนี้
1.“ห้างเซ็นทรัล” ผู้นำด้านแฟชั่นของวงการรีเทลในทุกมิติช่องทางการช้อป (Leading Omni-channel Fashion Retailer)
ด้วยขนาดพื้นที่รวมกว่า 245,000 ตร.ม. ของแผนกแฟชั่นทั้ง 24 สาขาทั่วประเทศ “ห้างเซ็นทรัล” จึงเป็นห้างเบอร์ต้นที่มีขนาดพื้นที่จำหน่ายสินค้าแฟชั่นขนาดใหญ่และครบครันที่สุด จากสถิติของห้างเซ็นทรัล พบว่า มีลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าแฟชั่นทั้งที่ห้างและช่องทางออนไลน์ (Transactions)จำนวน 12,578,563 ครั้ง ในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 22% จากปี 2564 (เมื่อเทียบตลอดทั้งปีระหว่างปี 2564 และ 2565) ประเภทสินค้าแฟชั่นที่ทำยอดขายได้ดี 5 อันดับแรกในปีที่ผ่านมา ได้แก่ 1.เสื้อผ้า 2.รองเท้า 3.เครื่องประดับ 4.กระเป๋าและเครื่องหนัง 5.นาฬิกา นอกจากนี้ กลุ่มสินค้าแฟชั่นทั้งหญิงและชายยังติด 3 อันดับสินค้าขายดีที่สุดของห้างเซ็นทรัลในทุกปี ถือเป็นการการันตีความนิยมของลูกค้าที่มีต่อสินค้าแฟชั่นของห้างเซ็นทรัล
2.เข้าใจและตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง (Best Personalized Offers)
เข้าใจทุกความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ด้วยฐานข้อมูลลูกค้าจาก The 1 กว่า 20 ล้านคน ทำให้ “ห้างเซ็นทรัล” สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายได้อย่างตรงจุด ทั้งในเรื่องสินค้าและบริการ อาทิ การันตีสินค้าแบรนด์แท้ 100% เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้า, การมอบบริการที่ดีที่สุดเพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งอย่างบริการ Central Luxe Chat & Shop ให้ลูกค้าสามารถพิมพ์ข้อความแชตกับพนักงานเพื่อสอบถามข้อมูลและสั่งซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น, บริการ Personal Shopper ที่คอยดูแลและให้การบริการลูกค้าแบบ One-on-One นอกจากนี้ ยังมอบสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นพิเศษ, การจับมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ รวมถึงการสะสมคะแนน The 1 เมื่อซื้อสินค้าที่ห้างเซ็นทรัลทุกสาขาและช่องทางออนไลน์ เติมเต็มประสบการณ์ช้อปปิ้งดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน
“ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการคัดสรรและบริหารสินค้า รวมถึงการคิดค้นและนำเสนอบริการใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าแบบ 360 องศา จะช่วยเติมเต็มความสุขในการช้อปปิ้งให้กับลูกค้าทุกคน พร้อมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแผนกแฟชั่นของห้างเซ็นทรัลในการเป็น Fashion Destination ของเมืองไทย” ธาพิดา กล่าวทิ้งท้าย
