ปตท. เปิดเผยผลการวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 3-7 ต.ค. 65 และแนวโน้ม 10-14 ต.ค. 65 โดยตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเบรนท์ (ICE Brent) ราคา 93.27 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +6.61 ตลาดน้ำมันสำเร็จรูป เวสท์เท็กซัสฯ (NYMEX WTI) ราคา 87.80 เหรียญต่อบาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +8.18 เหรียญ สหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปดูไบ (Dubai) ราคา 91.17 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +5.08 เหรียญ สหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปซื้อซื้อขายล่วงหน้าประเทศสิงคโปร์ ราคาเบนซินออกเทน 95 ปรับราคาเพิ่มขึ้น +2.42 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 93.66 เหรียญ สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดีเซลราคาปรับราคาลดลง +14.58 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 134.31 เหรียญสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent และ NYMEX WTI เฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ และราคาน้ำมันดิบ Dubai เฉลี่ยรายสัปดาห์สูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขานรับมาตรการลดการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC และพันธมิตร (OPEC+) ปริมาณ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ย. 65 และคาดว่าราคาน้ำมันมีโอกาสทรงตัวอยู่ในกรอบ 95 – 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่ง Rystad Energy ชี้ว่าการลดการผลิตน้ำมันของ OPEC+ จะส่งผลให้ ICE Brent เพิ่มขึ้นสู่ 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในเดือน ธ.ค. 65 (เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 89 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล)
ขณะที่วานิชธนกิจ Goldman Sachs ปรับคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent ในปี 65 มาอยู่ที่ 104 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล (จากเดิม 99 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) และในปี 66 อยู่ที่ 110 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล (จากเดิม 108 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) หลัง OPEC+ ตัดสินใจลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ย. 65
ส่วน Morgan Stanley ปรับคาดการณ์ ICE Brent ในไตรมาสที่ 1/66 มาอยู่ที่ 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล (จากเดิม 95 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) และเฉลี่ยปี 66 จะอยู่ที่ 97 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากในปี 66 อุปทานน้ำมันโลกจะน้อยกว่าอุปสงค์ (Deficit) อยู่ที่ 0.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน (จากเดิม 0.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน)
รมว.กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ Janet Yellen ชี้ว่ามาตรการลดการผลิตน้ำมันดิบของ OPEC+ ไม่เหมาะสมและไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา โดยสหรัฐฯ อาจพิจารณาระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) เพิ่มเติม (นอกเหนือจากแผนเดิมปริมาณรวม 180 ล้านบาร์เรล) เพื่อตอบโต้มาตรการลดการผลิตของ OPEC+
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
วันที่ 5 ต.ค. 65 ที่ประชุม Joint Ministerial Monitoring Committee (JMMC) ของกลุ่ม OPEC และพันธมิตร (OPEC+) มีมติลดการผลิตน้ำมันดิบ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ย. 65 และจะประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 4 ธ.ค. 65
บริษัท Shell Nigeria ปิดซ่อมบำรุงแหล่งผลิตน้ำมัน Bonga (2 แสนบาร์เรลต่อวัน) บริเวณอ่าวกินี ในมหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 65 เป็นเวลา 4 สัปดาห์ โดย Kpler คาดการณ์ไนจีเรียผลิตน้ำมันดิบและคอนเดนเสท ในเดือน ต.ค. 65 ลดลง 1.4 แสนบาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 1.17 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ ไนจีเรียผลิตคอนเดนเสทประมาณ 2-4 แสนบาร์เรลต่อวัน
- 8 ต.ค. 65 รัฐบาลจีนประกาศโควตานำเข้าน้ำมันดิบรอบที่ 1 ปี 66 แก่โรงกลั่นเอกชน ปริมาณรวม 20 ล้านตัน (146 ล้านบาร์เรล) โดยประกาศเร็วขึ้นจากแผนเดิมในเดือน ธ.ค. 65 เพื่อกระตุ้นให้โรงกลั่นในประเทศเตรียมมาตรการเพิ่มกำลังการกลั่น หลังจากวันที่ 30 ก.ย. 65 จีนประกาศโควตานำเข้าน้ำมันดิบรอบที่ 3 ปี 65 ปริมาณรวม 2.89 ล้านตัน (21.1 ล้านบาร์เรล) ทำให้โควตานำเข้าน้ำมันดิบในปี 65 รวมอยู่ที่ 164.61 ล้านตัน (1,202 ล้านบาร์เรล) มากกว่าปี 64 อยู่ที่ 162.25 ล้านตัน (1,184 ล้านบาร์เรล)
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ในเดือน ก.ย. 65 เพิ่มขึ้น 263,000 ราย จากเดือนก่อนหน้า (ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 250,000 ราย จากเดือนก่อนหน้า) ขณะที่อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) ในเดือน ก.ย. 65 ลดลง 0.2% จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 3.5% ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ที่ 3.7%
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
- Saudi Aramco บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบียประกาศราคาขายน้ำมันดิบแบบเทอม (Official Selling Price: OSP) ของน้ำมันดิบ Arab Light ส่งมอบเดือน พ.ย. 65 สำหรับลูกค้าเอเชีย คงที่จากเดือน ต.ค. 65 อยู่ที่ราคาเฉลี่ย Oman/Dubai +5.85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล สวนทางจากที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- กระทรวงน้ำมันของอิรักรายงานปริมาณส่งออกน้ำมันดิบ ในเดือน ก.ย. 65 เพิ่มขึ้น 6 พันบาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 3.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ อิรักผลิตน้ำมันดิบในเดือน ก.ย. 65 ลดลง 3 หมื่นบาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 4.55 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำกว่าโควตาจาก OPEC+ อยู่ 1.1 แสนบาร์เรลต่อวัน