33.7 C
Bangkok
Friday, November 15, 2024
รถ​ Mitsubishi
163732
previous arrow
next arrow

ส่องสเปก NEW MG ES ชาร์จ 1 ครั้ง วิ่งไกล 412 กม. ฟีเจอร์ล้นคัน

MG ES มากับการออกแบบใหม่หมดแทบจะทั้งคัน ความยาวตัวรถอยู่ที่ 4,600 มม. กว้าง 1,818 มม. สูง 1,543 มม. ระยะฐานล้อ 2,665 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 115 มม. อุปกรณ์มาตรฐานมีชุดไฟ LED รอบคัน, กระจกมองข้างปรับ/พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว, ไฟท้าย LED ใหม่แบบ Light Curtain Design, ชุดราวหลังคารองรับน้ำหนักได้สูงสุด 75 กก., สปอยเลอร์หลัง, ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว, ฝาปิดห้องเครื่องด้านหน้า, ฝาปิดห้องเก็บสัมภาระท้าย และฟังก์ชั่นไล่ฝ้ากระจกหลัง

ห้องโดยสารออกแบบใหม่ ตกแต่งแบบทูโทน อุปกรณ์มาตรฐานมีมาตรวัดดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว, จอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการแสดงผลกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ, ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto หรือ Apple CarPlay หรือบลูทูธ, พอร์ท USB Type-A และ Type- C, ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัลพร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5, กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart key พร้อมปุ่ม Push Start และชุดลำโพง 6 ตำแหน่ง

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์, กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ, เบาะหุ้มหนังสังเคราะห์ Denim Texture Design, ใช้ไฟแอมเบียนท์โทนสีฟ้า Energetic Blue Strip ตกแต่งทั่วห้องโดยสาร, คอนโซลแบบ Double Layer, เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เทคโนโลยี Zero-G Seats รองรับสรีระของผู้นั่ง, เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง, เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 พื้นที่บรรจุสัมภาระสูงสุด 1,367 ลิตร

ฟังก์ชั่นความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในห้องโดยสารมี เบรคมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake, ระบบ Tire Pressure Monitor System ตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า / ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ, สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง, จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็กแบบ ISOFIX 2 จุด และกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

สำหรับระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART แบบ Lite version แยกเป็น 2 กลุ่มชุดคำสั่งหลักๆ ประกอบด้วย:

(1) SMART CHECK : ตรวจสอบสถานะของรถ, ฟังก์ชั่นค้นหารถ Find My Car, ระบบเตือนความผิดปกติของรถ, ระบบขอบเขตอิเลคทรอนิคส์, ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ / นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถตามระยะ และระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ / การชาร์จ และสถานีชาร์จ

(2) SMART COMMAND : กุญแจดิจิทัล, ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านสมาร์ทโฟน, ระบบ MG Call Centre เลขาส่วนตัว, ระบบ Emergency Call โทรออก/รับสาย กรณีฉุกเฉิน และระบบสั่งการชาร์จที่สถานี MG Super Charge ผ่านทางสมาร์ทโฟน

ชุดระบบความปลอดภัยในกลุ่ม ADAS มี ระบบ Adaptive Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบ Traffic Jam Assist ควบคุมความเร็วอัตโนมัติตามสภาพการจราจร, ระบบ Forward Collision Warning ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนทางด้านหน้า, ระบบ Autonomous Emergency Braking ช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบ Lane keep Assist ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบ Emergency Lane Keeping Assist ช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน, ระบบ Lane Departure Warning ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน

เสริมด้วยระบบ Intelligent High-beam control เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบ Hill Start Assist System ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบ Auto Vehicle Hold ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง, ระบบ Curve Brake Control ควบคุมเบรคในขณะเข้าโค้ง, ระบบ Emergency Stop Signal สัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรคฉุกเฉิน, ระบบ Stability Control System ควบคุมการทรงตัว, ระบบ Traction Control System ป้องกันล้อหมุนฟรี ควบคุมการลื่นไถล, ระบบเบรค ABS ป้องกันล้อล็อค พร้อมระบบกระจายแรงเบรค EBD และระบบ Electronic Brake Assist ช่วยเสริมแรงเบรค และฟังก์ชั่น Follow Me Home Light หน่วงเวลาไฟส่องนำทางหลังจากดับการทำงานของรถ

ระบบขับเคลื่อนมากับเทคโนโลยีใหม่ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มระบบส่งกำลังที่เอ็มจีเรียกว่า SAIC E1 Three-Electric System ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นใหม่แบบ 8-Layer Hair Pin Permanent Magnet Synchronous Motor (PMSM) กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 28.5 กก.-ม. เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่แพคชนิดลิเธียม ไอรอน ฟอสเฟท ความจุ 51 กิโลวัทท์-ชม. ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 412 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ของยุโรป (มาตรฐานเก่าของเปลี่ยนเป็น WLTP ซึ่งตัวเลขจะลดลง)

ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่แพค ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ, ฟังก์ชั่น KERS หรือ Kinetic Energy Recovery System เลือกได้ 3 ระดับระหว่าง High, Medium หรือ Low, แบตเตอรี่แพคมาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP67

แบตเตอรี่แพครองรับการชาร์จเร็วจาก 0 – 80% ภายใน 40 นาที (กำลังไฟ 87 กิโลวัทท์), ชาร์จแบบธรรมดาผ่าน MG Home Charger จาก 0 – 100% ประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที (กำลังไฟ 6.6 กิโลวัทท์ และรองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 กิโลวัทท์) นอกจากนี้ยังรองรับเทคโนโลยี V2L หรือ Vehicle to Load สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยกำลังไฟสูงสุด 2,200 วัทท์

MG ES เลือกสีตัวถังได้ 5 สีระหว่าง ขาว Arctic White, ดำ Black Knight, เทา Andes Gray, แดง Scarlet Red หรือเงิน Champagne Silver ส่วนราคาจำหน่าย เอ็มจีจะประกาศอีกครั้งในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 นี้ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธาน

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่เว็บไซท์ : www.mgcars.com/th หรือเฟซบุ๊คแฟนเพจ : facebook.com/MGcarsThailand หรือแอด LINE : page.line.me หรือติดต่อศูนย์บริการลูกค้า 24 ชม. MG Call Centre โทร. 1267 หรือค้นหาตำแหน่งที่ตั้งของสถานีชาร์จ MG Super Charge ได้ที่ : www.mgcars.com/th/innovation/ev/charging-station

Related Articles

Stay Connected

0FansLike
3,912FollowersFollow
22,100SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles