“เอกา โกลบอล” ฉายภาพตลาดอาหารพร้อมรับประทานช่วงสองเดือนสุดท้ายของปีนี้ – ต้นปีหน้า เติบโตมากขึ้น เพราะเข้าสู่ไฮซีซันของการท่องเที่ยว – แคมป์ปิ้ง – การจับจ่ายของเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ นำเสนอนวัตกรรมยืดอายุอาหารและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โซลูชันใหม่ เพื่อผู้ผลิตอาหาร มั่นใจยอดทั้งปีนี้ บริษัทฯ เติบโตตามเป้า ทั้งไลน์ธุรกิจอาหารพร้อมประทาน และอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม
นายชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) ผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) เปิดเผยว่า ความต้องการอาหารแปรรูป และอาหารประเภทพร้อมทาน (Ready-To-Eat) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงสองเดือนสุดท้ายของทุกปี และจะต่อเนื่องจนถึงต้นปีหน้า เพราะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวและเป็นไฮซีซันของการท่องเที่ยว การตั้งแคมป์ปิ้ง อีกทั้งยังเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาวที่มีการเฉลิมฉลอง ทั้งเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่
ขณะที่ในปีนี้ นับเป็นปีที่สถานการณ์โควิด-19 ได้คลี่คลายลงและการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ บวกกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคหลังการแพร่ระบาดของโควิดมีต้องการความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และมีความนิยมบริโภคอาหารพร้อมรับประทาน (Ready -To -Eat) อีกทั้งยังหันมาเอาใจใส่และมองหาบรรจุภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
“ช่วงนี้ ถือเป็นช่วงไฮซีซันของสายแคมป์ปิ้ง ทำให้อาหารพร้อมรับประทานมีความต้องการมากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะพกพาง่าย สะดวกสบาย และหากสินค้าบรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์สะอาด ปลอดภัย และยังช่วยยืดอายุอาหารได้ หรือ เป็นมิตรต่อสิ่งแวด สามารถรีไซเคิล หรือ ย่อยสลายได้ง่ายจะยิ่งเป็นที่ต้องมากขึ้น”
ทั้งนี้ บรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารของ เอกา โกลบอล บรรจุภัณฑ์แห่งอนาคตจึงเป็นที่ต้องการจองตลาดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน เพราะมีคุณสมบัติพิเศษออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรักษาคุณภาพอาหารให้มีความปลอดภัย (Food Safety) ตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรักษาสภาพอาหาร คงความสดใหม่ คงรสชาติที่ดี และคุณค่าทางโภชนาการของอาหารได้อย่างมีมาตรฐาน เสมือนเพิ่งทำเสร็จออกจากเตา อีกทั้งยังสามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ทันที จึงช่วยลดเวลาและประหยัดพลังงานที่ใช้ในการอุ่นอาหารลง
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า มองยอดขายทั้งปี 2566 ของบริษัทฯ เติบโตตามเป้าหมาย ถึงแม้ว่าภาพรวมของตลาดทั่วโลกอาจมีความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และความไม่นอนของเศรษฐกิจโลกบ้าง แต่ยังคงเห็นสัญญาณที่ดีจากยอดคำสั่งของลูกค้าที่ยังคงมีอัตราที่สูงอย่างต่อเนื่องจนล้นกำลังการผลิตกว่า 2,850 ล้านชิ้นต่อปี โดยเป็นการเติบโตจากทั้งสองไลน์ธุรกิจในกลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน (Ready-To-Eat) และกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม (Pet-Food)
“ในปีนี้ ตลาดโลกอาจมีความกังวลในหลาย ๆ ปัจจัย แต่อาหารยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ ผู้บริโภคยังคงต้องการอาหาร สำหรับผู้ประกอบการนอกจากจะต้องผลิตสินค้าที่ตรงกับความต้องการผู้บริโภคแล้ว จำเป็นจะต้องก้าวนำตลาด ปีนี้ เอกา โกลบอล จึงมอบโซลูชันใหม่ ๆ นอกเหนือจากสินค้าของเราจะรีไซเคิลได้ 100% ยังผลักดันยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม หรือ กรีนโปรดักส์ มากขึ้น เพื่อเป็นไอเดียให้แก่ผู้ผลิตอาหาร และช่วยสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจไปพร้อมกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น และยังมีส่วนช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมให้เกิดความยั่งยืนด้วย”