ปตท.เปิดเผยผลการวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 2-6 พ.ค.65 และแนวโน้ม 9-13 พ.ค.65 โดยตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเบรนท์ (ICE Brent) ราคา 109.20 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +3.73 ตลาดน้ำมันสำเร็จรูป เวสท์เท็กซัสฯ (NYMEX WTI) ราคา 106.68 เหรียญต่อบาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +4.22 เหรียญ สหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปดูไบ (Dubai) ราคา 106.36 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +4.27 เหรียญ สหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปซื้อซื้อขายล่วงหน้าประเทศสิงคโปร์ ราคาเบนซินออกเทน 95 ปรับราคาเพิ่มขึ้น +11.99 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 141.65 เหรียญ สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดีเซลราคาปรับราคาเพิ่มขึ้น +10.24 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 162.27 เหรียญสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ล่าสุดเพิ่มขึ้น นักลงทุนกังวลต่ออุปทานน้ำมันโลกที่มีแนวโน้มจะตึงตัว หากสหภาพยุโรป (European Union: EU) คว่ำบาตรรัสเซียรอบที่ 6 รวมถึงยุติการนำเข้าน้ำมัน และเข้าซื้อจากแหล่งจัดหาอื่นๆ ทดแทน โดยเยอรมนีซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของ EU แสดงท่าทีสนับสนุนการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย คาดว่า EU จะสามารถบรรลุข้อตกลงภายในสัปดาห์นี้
ในการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (G7) เมื่อ 8 พ.ค.65 สมาชิก 7 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ให้คำมั่นที่จะร่วมกันยุติการนำเข้าน้ำมันรัสเซีย
จับตาท่าทีของรัสเซีย ในวันที่ 9 พ.ค. 65 เป็นวันเฉลิมฉลองรำลึกชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 (Victory Day) นักวิเคราะห์คาดว่าประธานาธิบดี Vladimir Putin จะกล่าวสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะเหนือยูเครน แม้สงครามยังไม่สิ้นสุด ซึ่งอาจเพิ่มความตึงเครียดต่อสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
* ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission: EC) Ursula von der Leyen เสนอมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงยุติการนำเข้าน้ำมันดิบภายใน 6 เดือน และยุติการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปภายในสิ้นปี 2565 (ยกเว้นฮังการี และสโลวาเกีย จนถึงสิ้นปี 2566) ทั้งนี้ IEA รายงานสหภาพยุโรปนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียในปี 2564 อยู่ที่ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และน้ำมันสำเร็จรูป 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
* 5 พ.ค. 65 ที่ประชุม Joint Ministerial Monitoring Committee (JMMC) ของกลุ่ม OPEC+ มีมติเพิ่มปริมาณการผลิตในเดือน มิ.ย. 65 เพียงจำกัด ตามแผนเดิม ที่ 432,000 บาร์เรลต่อวัน
* Reuters รายงานบริษัทน้ำมันแห่งชาติ PDVSA ของเวเนซุเอลาส่งออกน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป ในเดือน เม.ย. 65 ลดลงจากเดือนก่อน 8% อยู่ที่ 644,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากระบบการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันประสบปัญหาทางเทคนิค
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
* 4 พ.ค. 65 คณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (Federal Open Market Committee: FOMC) มีมติเอกฉันท์ให้ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.50% เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 22 ปี มาอยู่ที่ 0.75%-1% และให้ปรับลดงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) อยู่ที่ 9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยจะลดการถือครองพันธบัตร
* 5 พ.ค. 65 การประชุมคณะกรรมการวุฒิสภาของสหรัฐฯ (Senate Judiciary Committee) มีมติ 17:4 ผ่านร่างกฎหมาย No Oil Producing or Exporting Cartels หรือ NOPEC เปิดโอกาสให้อัยการสหรัฐฯ ฟ้องร้องผู้ผลิตน้ำมัน (เช่น ประเทศสมาชิกในกลุ่ม OPEC) หากจำกัดปริมาณการผลิต เพื่อสนับสนุนราคาน้ำมัน