ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้สร้างโอกาสมากมายให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตลาดในรูปแบบใหม่หรือการตลาดดิจิทัลที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำการตลาดไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ท่ามกลางรอยต่อของของการเปลี่ยนแปลง การดำเนินกลยุทธเพื่อปรับตัวให้เข้ากับวิถีแนวคิดหรือรูปแบบการดำเนินกิจกรรมการตลาดในสมรภูมิการแข่งขันใหม่ จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าจับตามองอย่างยิ่ง
ใครที่ติดตามข่าวคราวกิจกรรมจาก เอสซีจี เดคคอร์ หรือ SCGD เป็นต้องได้เห็นงานที่จัดเต็มจัดใหญ่เพื่อผู้แทนจำหน่ายมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ งาน “SCGD The Next Chapter on Tour 2024” ที่จัดคาราวานออนทัวร์ทั่วไทยพบผู้แทนจำหน่ายทุกภาค นำเสนอนวัตกรรม และสินค้าใหม่ให้ได้เลือกเข้าร้านก่อนใครเมื่อช่วงต้นปี หรืออีกหนึ่งงานหรูที่ชูความเป็น Exclusive พร้อมรางวัลสนับสนุนสุดพิเศษสำหรับ กลุ่มผู้แทนจำหน่ายจากทั่วประเทศที่มียอดขายทะลุเป้าอย่างงาน “COTTO Top Rank Award 2023 : The Grandeur Gatherings” ล้วนเป็นกิจกรรมที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่น สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของช่องทางจัดจำหน่ายหลักที่ยังทรงอิทธิพลและเป็นช่องทางที่ SCGD ให้ความสำคัญอยู่ไม่น้อย
นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD ให้ความเห็นว่า “แม้ว่าธุรกิจวัสดุก่อสร้างและตกแต่งพื้นที่อยู่อาศัย จะให้ความสำคัญกับการเพิ่มโอกาสทางการขายสินค้า รวมถึงบริการ ผ่านช่องทางรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าช่องทางจัดจำหน่ายในรูปแบบที่ใกล้ชิดกับลูกค้า หรือ ร้านผู้แทนจำหน่าย (Dealer) ยังคงเป็นช่องทางที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับ SCGD เพราะสามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดตรงใจ จากการสั่งสมประสบการณ์การทำธุรกิจที่มีความเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งนับเป็นข้อได้เปรียบของ SCGD ที่มีพันธมิตรโดยเฉพาะเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศเกือบ 600 รายที่มีศักยภาพและเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายในประเทศไทยที่สูงถึง 50% ของยอดขายทั้งหมด ร่วมกับการที่ SCGD นำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาร่วมผสมผสานเติมช่องว่างและสร้างรูปแบบการตลาดที่มีประสิทธิภาพแบบไร้รอยต่อ”
สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าจับตามองของ “เครือข่ายพันธมิตรผู้แทนจำหน่าย” ในฐานะกุญแจดอกสำคัญที่ร่วมเป็นพลังหลักในการขับเคลื่อน SCGD รุกขยายตลาดกระเบื้อง สุขภัณฑ์และก๊อกน้ำ ให้เติบโตใน ASEAN และบรรลุเป้าหมายตามที่ประกาศไว้ โดยเฉพาะการเติบโต 2 เท่า ภายในปี 2573
นายนำพล สรุปเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบัน เอสซีจี เดคคอร์ หรือ SCGD สามารถเข้าถึงลูกค้าในทุกรูปแบบ ทั้งช่องทางหน้าร้านและร้านออนไลน์ของตัวเอง ได้แก่ COTTO LiFE รวม 3 สาขา ที่ กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น และเชียงใหม่ ตลอดจนร้านค้าคลังเซรามิคกว่า 100 สาขาครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของไทย ที่สำคัญ คือ มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย (Dealer) เกือบ 600 รายในไทย และกว่า 250 รายในต่างประเทศ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายต่อ (Sub-Distributors) กว่า 10,000 รายทั่วโลก ร่วมกับการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย”