29.1 C
Bangkok
Monday, December 16, 2024
รถ​ Mitsubishi
163732
AD Banner_900x180
FORD900x192px_1
AD Banner_900x180
FORD900x192px_1
Honda_900x192px 2024
previous arrow
next arrow

สตอเรจ เอเชีย ส่ง i-StoreGo ให้บริการเช่าห้องเก็บของส่วนตัวแบบครบวงจร

สตอเรจ เอเชีย เผยแผนธุรกิจผลักดันให้องค์เติบโต ทั้ง เพิ่มสาขาบริการพร้อมส่ง i-StoreGo แพลตฟอร์มบริการใหม่แบบ Door to Door เข้ามาหวังบริการครบวงจรต่อยอดธุรกิจ หลังตลาดบริการให้เช่าห้องเก็บของและทรัพย์สินส่วนตัวในไทยเติบโต 200-300% ระบุแนวโน้มตลาดยังขยายตัวได้อีกมาก สาเหตุมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนยาก
3 ปัจจัยเป็นตัวเร่ง พื้นที่อยู่อาศัยเล็กลง, work from home จากพิษโควิด-19, คนฮิตทำธุรกรรมผ่านออนไลน์

นายภักดี อนิวรรตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด บริษัทที่ให้บริการให้เช่าห้องเก็บของและทรัพย์สินส่วนตัวระดับพรีเมี่ยมของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “i-Store” เปิดเผยว่าตลอดระยะเวลา 4 ปีที่บริษัท สตอเรจ ฯ เปิดให้บริการให้เช่าห้องเก็บของนอกบ้านส่วนตัวภายใต้แบรนด์ i -Store Self Storage พบว่าธุรกิจนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของบริษัทสตอเรจฯ และของผู้ประกอบการรายอื่นๆ ดำเนินธุรกิจในรูปแบบเดียวกัน เห็นได้จากการลงทุนขยายพื้นที่เก็บของและทรัพย์สินรวมกันของผู้ประกอบการ 4-5 รายจาก 5,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) เพิ่มเป็น 20,000 ตารางเมตร และมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยมากกว่า 80%

“ดูจากการขยายพื้นที่เก็บของของผู้ประกอบการแต่ละรายแล้ว ผมว่าโดยรวมตลาดน่าจะเติบโต 200-300% และแนวโน้มตลาดยังโตได้อีกมาก”

นายภักดี กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ได้ให้ความเห็นถึงเหตุผลที่มาสนับสนุนให้ธุรกิจให้บริการให้เช่าห้องเก็บของและทรัพย์สินส่วนตัวขยายตัวต่อเนื่องมาจากปัจจัยหลัก คือ พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ดังนี้

1.พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ตามพื้นที่ที่อยู่อาศัยที่จำกัดหรือมีขนาดพื้นที่ใช้สอยที่เล็กลง โดยเฉพาะ
ที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม โดยลูกค้าที่อาศัยอยู่ในคอนโดฯจะเป็นกลุ่มหลักที่มาใช้บริการของบริษัท สตอเรจฯ
ซึ่งก็มีทั้งลูกค้ารายบุคคล และเป็นลักษณะ Co-Promotion ร่วมกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่

2.พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนหรือปรับตัว จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้บริโภคทั้งที่อาศัยอยู่บ้านหรืออยู่คอนโดฯต้องการพื้นที่ work from home ทำให้ต้องการพื้นที่สำหรับเก็บสิ่งของและทรัพย์สินนอกบ้านเพิ่ม

3.การเติบโตของตลาด E-Commerce (อีคอมเมิร์ซ) หรือธุรกิจซื้อ-ขายผ่านช่องทางออนไลน์ ที่สต็อกสินค้าเปิดตัวเพลตฟอร์ม i-StoreGo เสริมบริการให้เช่าพื้นที่เก็บของนอกบ้านที่ไม่ต้องออกจากบ้าน

ด้วยเพราะมองแนวโน้มการเติบโตที่ต่อเนื่องของตลาดหลังจาก บริษัท สตอเรจ ฯ เปิดให้บริการให้เช่าห้องเก็บของนอกบ้านส่วนตัวระดับพรีเมียมด้วยโลเคชั่นใจกลางเมืองภายใต้แบรนด์ i-Store Self Storage เพื่อแก้ปัญหาสำหรับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่อาศัยอยู่ในคอนโดฯ ที่ต้องการพื้นที่ในการจัดเก็บสิ่งของ รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ต้องมาทำงานทั้ง Expat และ workcation ตอนนี้แนวโน้มจำนวนชาวต่างชาติเริ่มกลับมา ประกอบกับก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ที่ก่อตั้งบริษัท สตอเรจฯ จึงเตรียมความพร้อมรองรับการบริการลูกค้าและการเติบโตของบริษัท สตอเรจฯ ทั้งในรูปแบบ ขยายสาขาหรือเพิ่มจุดบริการ และ เปิดแพลตฟอร์มบริการใหม่เข้ามาเพื่อให้บริการครบวงจรการเปิดแพลตฟอร์มบริการใหม่เพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจนั้น

ล่าสุด เปิดเพลตฟอร์ม i-StoreGo เสริมบริการให้เช่าพื้นที่เก็บของนอกบ้านที่ไม่ต้องออกจากบ้านแบบครบวงจรผ่านระบบการจัดการออนไลน์ เจ้าหน้าที่เป็นผู้ไปรับและส่งคืนสิ่งของถึงบ้านลูกค้าแบบ Door to Door โดยทีม i-StoreGo เป็นผู้จัดการและจัดเก็บรักษาสิ่งของลูกค้า ลูกค้าสามารถเรียกของคืนได้เพียงเลือกสิ่งของที่ต้องการ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการส่งคืนให้กับลูกค้าตาม Concept “Cloud storage but for your stuff” ตั้งเป้ายอดผู้ใช้บริการในปี 2565 ประมาณ 1,000 ราย และในปี 2566 เพิ่มเป็น 3,000 ราย

นายสเตฟาโน คาสสิโอ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กล่าวถึงจุดเริ่มต้น i-StoreGo ว่าเกิดจากการเล็งเห็นความต้องการของลูกค้าในช่วงที่ผ่านมาที่ต้องการจัดระเบียบบ้านให้พร้อมสำหรับการทำงาน และการรีโนเวทบ้าน แต่ไม่สามารถเดินทางออกจากบ้านได้ i-StoreGo จึงพัฒนาบริการนี้เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเก็บของ

ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเลือกเก็บของชิ้นเล็กตั้งแต่ เอกสาร หนังสือ รองเท้า ของใช้ส่วนตัว เสื้อผ้า จักรยาน ถุงกอล์ฟ หรือ กระเป๋าเดินทาง ไปจนถึงของขนาดใหญ่ โดยสามารถเลือกการจัดเก็บเป็นขนาดตามความต้องการของลูกค้า โดยบริการนี้เจ้าหน้าที่ของ i-StoreGo จะเป็นผู้ดูแลทั้งเรื่องการแพ็ก การขนย้าย จัดเก็บ และส่งคืน ผ่านระบบการจัดการออนไลน์ ด้วยบริการแบบ One stop service นี้จะช่วยลดความยุ่งยากในการจัดเก็บของลูกค้าไปได้เยอะอีกด้วย

นายภักดี กล่าวว่า จากอัตราการเติบโตในการทำธุรกรรมออนไลน์ในประเทศไทยสูงขึ้น i-StoreGo จึงต่อยอดจากธุรกิจเดิมมาเป็นการให้บริการออนไลน์เพื่อรองรับลูกค้าได้กว้างขึ้นโดยไม่จำกัดจำนวน unit ในส่วนของการ disrupt กันในธุรกิจตนมองว่าเป็นการเสริมกันมากกว่า เพราะทำให้แบรนด์มีความแข็งแรงและยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้ามากขึ้น เพราะเมื่อของลูกค้าถูกจัดเก็บจะได้รับการดูแลและเอาใจใส่เป็นอย่างดี ภายใต้แบรนด์ i-Store ทั้งนี้ ยังมองเห็นว่า i-StoreGo Door to Door Storage จะทำให้ธุรกิจมีความครบวงจรสามารถช่วยแก้ปัญหาและนำเสนอทางออกที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าได้ และสามารถตอบโจทย์การใช้งานเมื่อลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปใช้มือถือกันมากขึ้น

i-StoreGo มีแผนขยายพื้นที่ให้บริการไปทั่วประเทศไทย และต่างประเทศในอีก 3-4 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะประเทศที่มีประชากรหนาแน่น เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งบริการดังกล่าวเหมาะกับผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอย และต้องการความสะดวกสบายเป็นหลัก โดยเรียกใช้บริการผ่านทาง www.i-storego.com หรือติดต่อได้ที่โทร.09-3128-3199

Related Articles

Stay Connected

0FansLike
3,912FollowersFollow
22,100SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles