บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สานต่อปณิธานส่งต่อความรู้สู่ความยั่งยืน ภายใต้ “กิจกรรม TSI-The Wisdom Workshop รู้ครบ… จบทุกปัญหาธุรกิจ” ในกับประชาชนผู้ทำธุรกิจ SME ในท้องถิ่น ใน 6 ภูมิภาค ได้แก่ จังหวัดสระบุรี, ขอนแก่น, กาญจนบุรี, สงขลา, เชียงราย และครั้งนี้ ที่จังหวัดชลบุรี เพื่อรับฟังแนวทางการเรียนรู้ของระบบการผลิตแบบโตโยต้า (TPS) และหลักการไคเซ็น ให้สามารถนำไปเป็นแนวทางสำหรับประยุกต์แก้ไขปัญหา ปรับปรุงและพัฒนาธุรกิจของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สู่การทำธุรกิจแบบมืออาชีพ ลดต้นทุน ลดความสูญเสีย และเพิ่มกำไรอย่างต่อเนื่อง
นายนันทวัฒน์ ศรีวรัตน์อัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าจังหวัดชลบุรี นายเนติ มงคลจิตตานนท์ กรรมการ บริษัท ไทยยนต์ชลบุรี ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า จำกัด และนายคมกฤช บริบูรณ์ เจ้าของธุรกิจ บริษัท บริบูรณ์ คราฟท์ จำกัด ร่วมงานกิจกรรมครั้งที่ 6 ที่จังหวัดชลบุรี พร้อมฉลองความสำเร็จ “การอบรมผู้ประกอบการ 6 ภูมิภาค” T-SI The Wisdom Workshop รู้ครบ… จบทุกปัญหาธุรกิจ” ณ ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ บริษัท บริบูรณ์ คราฟท์ จำกัด จังหวัดชลบุรี
โดยกิจกรรม T-SI The Wisdom Workshop เป็นกิจกรรมในโครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” นำพาท่านผู้ประกอบการที่สนใจเรียนรู้องค์ความรู้ของระบบการผลิตแบบโตโยต้า (TPS) และหลักการไคเซ็น เพื่อนำไปแก้ไขปัญหา ปรับปรุง และพัฒนาธุรกิจของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเยี่ยมชม ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ ทั้ง 6 แห่งในประเทศไทย ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่เกิดจากผลสำเร็จจากทางโตโยต้าที่ได้ส่งบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ เข้าไปสอนให้รู้วิธีการทำธุรกิจแบบมืออาชีพ ลดต้นทุนการผลิต ลดความสูญเสีย เพิ่มพูนกำไร พร้อมต่อยอดและส่งต่อความรู้สู่ความยั่งยืน ให้กับธุรกิจชุมชนในพื้นที่และทั่วประเทศ ด้วยการจัดสัมมนาแบบไฮบริด (เรียนผ่านออนไลด์ด้วยระบบ Zoom และเข้าร่วมสัมมนาที่ศูนย์การเรียนรู้ โตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์) ที่ผ่านมารวม 6 ครั้ง ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จากผู้ประกอบการทั่วประเทศที่สมัครเข้าร่วมการอบรม รวมทั้งสิ้นมากกว่า 1,000 คน
ที่ผ่านมา โครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ได้มีการจัดกิจกรรมมาแล้ว 5 ครั้ง โดย ครั้งที่ 1 ณ บริษัท ลัลณ์ลลิลไบโอเทค จำกัด จังหวัดสระบุรี ตอน “ตอนธุรกิจโตอย่างไร ให้ทะยานไปได้ไกล” ครั้งที่ 2 ณ กลุ่มข้าวแตนสมุนไพรสายทิพย์ จังหวัดขอนแก่น ตอน “ขายของหลักสิบ ให้ได้กำไรหลักล้าน เรียนรู้การปรับภาพลักษณ์ สร้างจุดเด่นให้สินค้า” ครั้งที่ 3 ณ กลุ่มตัดเย็บเสื้อโปโล ฮาร์ท โอทอป จังหวัดกาญจนบุรี ตอน “ยอดขายร่วง ต้นทุนจม เรียนรู้เทคนิคการจัดการ “ระบบ” เพื่อกำจัดส่วนเกิน เพิ่มประสิทธิภาพ”
ครั้งที่ 4 ณ บริษัท 42 เนเจอรัลรับเบอร์ จำกัด จังหวัดสงขลา ตอน “จบปัญหาสินค้าดี แต่ไม่มีตลาด เรียนรู้เทคนิคการเพิ่มช่องทางการขาย ให้ธุรกิจขนาดเล็ก” ครั้งที่ 5 ณ บริษัท รตาวัน จำกัด จังหวัดเชียงราย ตอน “งานซ้อน เงินจม ตัวการใหญ่ฉุดธุรกิจ เรียนรู้การจัดการทางการเงิน เพื่อสภาพคล่องที่ดี” และครั้งที่ 6 ณ บริษัท บริบูรณ์ คราฟท์ จำกัด จังหวัดชลบุรี ตอน “ต้นทุนสูง กำลังผลิตต่ำ เรียนรู้กลยุทธ์การสร้าง Productivity สำหรับ SME” ซึ่งจะจัดเป็นครั้งสุดท้ายในปีนี้
นายคมกฤช บริบูรณ์ เจ้าของธุรกิจ บริษัท บริบูรณ์ คราฟท์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์งานฝีมือและของที่ระลึกจากไม้ไผ่ พร้อมกับบริษัทฯ ได้จัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่จัดการอบรมในครั้งนี้ โดยมีแนวทางในการรักษาภูมิปัญญาจักสานไม้ไผ่ และส่งเสริมการถ่ายทอดฝีมือของท้องถิ่น ตลอดจนมุ่งเน้นการสร้างอาชีพแก่กลุ่มแม่บ้านในอำเภอพนัสนิคมผ่านการจ้างงานกว่า 85 ครัวเรือน โดยมีจุดเด่นจากการนำเอาองค์ความรู้ของโตโยต้า เข้าไปปรับปรุงการดำเนินงานของธุรกิจตนเองให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ทั้งในกระบวนการผลิต การควบคุมกระบวนการทำงาน และการจัดการสินค้าคงคลัง
อย่างไรก็ตาม การจัดกิจกรรม T-SI The Wisdom Workshop รู้ครบ… จบทุกปัญหาธุรกิจ เป็นการต่อยอดจากส่วนหนึ่งของแผนการดำเนินงานภายใต้พันธกิจใหม่ของบริษัทฯ ในโอกาสการดำเนินงานในประเทศไทยครบรอบ 60 ปีที่ผ่านมา นอกจากเปิด “ศูนย์การเรียนรู้โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ครอบคลุมพื้นที่ครบทั้ง 6 ภูมิภาคทั่วประเทศแล้ว ยังมุ่งมั่นส่งต่อความรู้ให้แก่สังคมไทย เพื่อขับเคลื่อนความสุขสู่ผู้คนและส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืนของสังคมภายใต้ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยโตโยต้ามุ่งหวังให้ศูนย์การเรียนรู้ฯ ทั้ง 6 แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนในประเทศไทย ผ่านการถ่ายทอดแนวความรู้ในการปรับปรุงธุรกิจ ส่งเสริมให้เกิดสังคมแห่งการแบ่งปันความรู้ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กลุ่มธุรกิจชุมชนทั่วประเทศสามารถนำไปต่อยอดในการขับเคลื่อนธุรกิจของตนเองและสร้างเสถียรภาพแก่เศรษฐกิจของประเทศต่อไป