25.8 C
Bangkok
Sunday, December 15, 2024
รถ​ Mitsubishi
163732
AD Banner_900x180
FORD900x192px_1
AD Banner_900x180
FORD900x192px_1
Honda_900x192px 2024
previous arrow
next arrow

ตลาดรถยนต์สิงหาคมซบเซา ยอดขายรวม 42,176 คัน ลดลง 38.8%

ตลาดรถยนต์เมืองไทยประจำเดือนสิงหาคม 2564 ชะลอตัวทุกเซ็กเมนท์ในช่วง Low Season ซบเซาตามคาด การขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจขยับตามได้น้อย เพราะโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าระบาดหนัก โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 42,176 คัน หรือปรับตัวลดลง 38.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คาดการณ์ตลาดเดือนกันยายน 2564 มีแนวโน้มกระเตื้องขึ้นจากมาตรการคลายล็อคดาวน์

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนสิงหาคม 2564 ชะลอตัวทุกเซ็กเมนท์ในช่วง Low Season โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 42,176 คัน ลดลง 38.8%ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 13,845 คัน ลดลง 35% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 28,331 คัน ลดลง 40.5% ขณะที่รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 21,875 คัน ลดลง 40.9%

ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม 2564 มีปริมาณการขาย 42,176 คัน ลดลง 38.8% โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 35% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 40.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากความวิตกกังวลต่อภาวะการระบาดของไวรัส COVID-19 เป็นการระบาดของสายพันธุ์ Delta ที่แพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิม โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การโควิด-19 (ศบค.)ขยายพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดมากขึ้น เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส COVID-19 ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน และภาคธุรกิจต่างๆ ส่งผลให้ผูบริโภคส่วนใหญ่มีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ภายในประเทศและรัดกุมเรื่องการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น ประกอบกับช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นช่วง Low season ที่เป็นอุปสรรคสำคัญในการขายรถยนต์อีกด้วย

คาดกาณณ์ตลาดรถยนต์ในเดือนกันยายน 2564 มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 รวมทั้งการออกมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัส COVID-19 เป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ต้องชะลอ หรือเลื่อนกำหนดการออกไป รวมถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดทำให้ประชาชนเดือดร้อน ด้วยหลายเหตุปัจจัยต่างๆ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจโดยรวม และกระทบความสามารถในการซื้อรถยนต์ของลูกค้าด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดียังมีความหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะฟื้นตัวดีขึ้นจากความพยายามของภาครัฐในการแก้ไขปัญหา และการประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 รวมทั้งมาตรการทางเศรษฐกิจ ที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างกำลังซื้อของผู้บริโภคให้ฟื้นคืนกลับมาโดยเร็ว

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนสิงหาคม 2564

1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 42,176 คัน ลดลง 38.8%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 12,364 คัน ลดลง 42.8% ส่วนแบ่งตลาด 29.3%

อันดับที่ 2 อีซูซุ 11,035 คัน ลดลง 33.4% ส่วนแบ่งตลาด 26.2%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า 5,345 คัน ลดลง 37.9% ส่วนแบ่งตลาด 12.7%

2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 13,845 คัน ลดลง 35%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า 4,906 คัน ลดลง 30.9% ส่วนแบ่งตลาด 35.4%

อันดับที่ 2 โตโยต้า 3,694 คัน ลดลง 30.0% ส่วนแบ่งตลาด 26.7%

อันดับที่ 3 มาสด้า 1,061 คัน ลดลง 49.6% ส่วนแบ่งตลาด 7.7%

3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 28,331 คัน ลดลง 40.5%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 11,035 คัน ลดลง 33.4% ส่วนแบ่งตลาด 39.0%

อันดับที่ 2 โตโยต้า 8,670 คัน ลดลง 46.9% ส่วนแบ่งตลาด 30.6%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,012 คัน ลดลง 23.3% ส่วนแบ่งตลาด 7.1%

4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 21,875 คัน ลดลง 40.9%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 9,638 คัน ลดลง 36.9% ส่วนแบ่งตลาด 44.1%

อันดับที่ 2 โตโยต้า 7,754 คัน                ลดลง 42.8% ส่วนแบ่งตลาด 35.4%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,012 คัน ลดลง 23.3% ส่วนแบ่งตลาด  9.2%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 2,487 คัน

โตโยต้า 1,114 คัน – อีซูซุ 687 คัน – มิตซูบิชิ 278 คัน – ฟอร์ด 250 คัน – นิสสัน 158 คัน

5.ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 19,388 คัน ลดลง 41.7%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 8,951 คัน ลดลง 39.8% ส่วนแบ่งตลาด 46.2%

อันดับที่ 2 โตโยต้า 6,640 คัน ลดลง 43.8% ส่วนแบ่งตลาด 34.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,762 คัน ลดลง 15.7% ส่วนแบ่งตลาด 9.1%

Related Articles

Stay Connected

0FansLike
3,912FollowersFollow
22,100SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles