30.1 C
Bangkok
Wednesday, January 15, 2025
musubishi900x192px_2024
Honda_900x192px 2024
163732
AD Banner_900x180
FORD900x192px_1
Mitsubishi_900x192px_2
previous arrow
next arrow

เฮอร์ริเคนถล่มอ่าวแม็กซิโก ส่งผลอุปทานลด-อุปสงค์หดตัว ดันราคาน้ำมันดิบโลกปรับขึ้น

ปตท. เผยผลวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์ที่ 23-27 ส.ค. 64 และคาดการณ์สัปดาห์ที่ 30 ส.ค. – 3 ก.ย. 64 โดยตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเบรนท์ (ICE Brent) ราคา 71.16 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +3.48 ตลาดน้ำมันสำเร็จรูป เวสท์เท็กซัสฯ (NYMEX WTI) ราคา 65.03 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +2.51เหรียฐสหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปดูไบ (Dubai) ราคา 67.31เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +1.73 เหรียญ สหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปซื้อซื้อขายล่วงหน้าประเทศสิงคโปร์ ราคาเบนซินออกเทน 95 ปรับราคาเพิ่มขึ้น +0.98 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 79.26 เหรียญ สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดีเซลราคาปรับราคาเพิ่มขึ้น +2.21เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 76.26เหรียญสหรัฐฯ

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก    

บริษัทน้ำมันแห่งชาติของเม็กซิโก Petroleos Mexicanos (Pemex) รายงานเกิดเหตุเพลิงไหม้แท่นขุดเจาะ E-Ku-A2 ในแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Ku-Maloob-Zaap (0.72 ล้านบาร์เรลต่อวัน) บริเวณ Campeche ทางตอนใต้ของอ่าวเม็กชิโก เมื่อ 22 ส.ค.64 มีผู้เสียชีวิต 5 คน และผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 6 คน ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ 0.42 ล้านบาร์เรล หยุดชะงัก อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีของเม็กซิโก Andres Manuel Lopez Obrador ยังคงเชื่อมั่นว่า Pemex จะสามารถกลับมาผลิตน้ำมันดิบได้ที่ระดับ 1.80 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในสิ้นปี 2564 เทียบกับครึ่งแรกของปี 2564 ที่ 1.72 ล้านบาร์เรลต่อวัน

* Energy Information Adminsitration (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 20 ส.ค. 64 ลดลง 3.0 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 432.6 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดตั้งแต่เดือน ม.ค.63 ขณะที่ปริมาณการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 21.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดตั้งแต่เดือน มี.ค.63

* จีนส่งสัญญาณสามารถควบคุมสถานการณ์ COVID-19 ได้ หลังจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (National Health Commission) รายงานจำนวนผู้ป่วย COVID-19 รายใหม่ 35 คน ณ วันที่ 29 ส.ค. 64 โดยสูงกว่าวันก่อนหน้า ที่ 21 คน แต่เป็นการติดเชื้อจากภายในประเทศเพียง 1 คน และไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ ปัจจุบันจีนมีผู้ป่วย 94,687 คน และยอดผู้เสียชีวิต 4,636 คน

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ    

* การระบาด COVID-19 สายพันธ์ Delta ทั่วโลก ส่งผลกระทบให้อุปสงค์น้ำมันลดลง โดยในสหรัฐฯ แพร่ระบาดรุนแรงในรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ Worldometers รายงาน ณ วันที่ 22 ส.ค.64 สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 79,391 ราย สูงสุดตั้งแต่เดือน ก.พ.64 ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 สะสมของสหรัฐฯ มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 645,058 ราย ทั้งนี้รัฐบาลสหรัฐฯ วางแผนจะขยายเวลาข้อบังคับให้ผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะทางเครื่องบิน รถไฟ และรถบัส รวมถึงผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานและสถานีรถไฟ ต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันไปจนถึง 18 ม.ค. 65 จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดลง 13 ก.ย.64

* กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ (Department of Energy: DOE) ออกประมูลขายน้ำมันดิบจากคลังสำรองปิโตรเลียมเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) ปริมาณรวม 20 ล้านบาร์เรล โดยจะปิดรับข้อเสนอซื้อใน 31 ส.ค.นี้ ประกาศผลภายใน 13 ก.ย.64 ส่งมอบน้ำมันในช่วง 1 ต.ค.-15 ธ.ค.64 ทั้งนี้ DOE เผย ณ วันที่ 13 ส.ค. 64 ปริมาณสำรองใน SPR อยู่ที่ระดับ 621 ล้านบาร์เรล

* Baker Huges รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ (Rig Count) ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 27 ส.ค.64 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 5 แท่น อยู่ที่ 410 แท่น สูงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย.63

แนวโน้มราคาน้ำมัน  

ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เผยบทวิเคราะห์ราคาน้ำมันยังได้รับแรงสนับสนุนจากอุปทานน้ำมันดิบที่ลดลงใน Gulf of Mexico จากผลกระทบพายุเฮอร์ริเคน Ida ส่งผลให้บริษัทน้ำมันในสหรัฐฯ อาทิ BP, Chevron, Shell และ Equinor อพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันบริเวณ Gulf of Mexico

ล่าสุดสำนักความปลอดภัยและกำกับการด้านสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (Bureau of Safety and Environment Enforcement : BSEE) รายงานว่าแหล่งผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติบริเวณ Gulf of Mexico ต้องหยุดดำเนินการประมาณ 1.74 ล้านบาร์เรลต่อวัน และ 2,091 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน คิดเป็น 96% และ 94% ของปริมาณการผลิตใน Gulf of Mexico ตามลำดับ ทั้งนี้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติบริเวณ Gulf of Mexico คิดเป็น 17% และ 5% ของปริมาณผลิตทั้งหมดในสหรัฐฯ ตามลำดับ รวมถึงทางเทคนิคราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น และจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 70.7 ถึง 75.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

พายุเฮอริเคน Ida ได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณรัฐ Louisiana ของสหรัฐฯ ในวันที่ 29 ส.ค. 64 ตามเวลาท้องถิ่น และอ่อนตัวลงโดยมีความเร็วลมสูงสุดประมาณ 125 ไมล์/ชม. (201 กม./ชม.) ถือเป็นเฮอริเคนระดับ 3 (ความเร็วลม 178-208 กม./ชม.) ทำให้โรงกลั่นน้ำมันในบริเวณ Gulf Coast ปิดดำเนินการ ประมาณ 2.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้กำลังการกลั่นรวมของโรงกลั่นบริเวณ Gulf Coast คิดเป็น 45% ของทั้งสหรัฐฯ

ถึงแม้ Fed จะเริ่มปรับลดวงเงินใช้ในมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในปีนี้ นาย Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดว่า Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Fed Funds Rate) ที่ 0-0.25% เพราะมองว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในตอนนี้จะเกิดขึ้นชั่วคราว และจะรอจนกว่าจะมีตัวเลขยืนยันแน่ชัดถึงการฟื้นตัวของการจ้างงาน ขณะที่ Patrick Harker ประธาน Fed สาขา Philadelphia คาดการณ์ว่า Fed จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายก่อนปลายปี 2565 หรือ ต้นปี 2566 เป็นอย่างน้อย

ให้จับตาสถานการณ์ความไม่สงบในอัฟกานิสถาน โดย 28 ส.ค.64 กองทัพสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีกองกำลังติดอาวุธ ISIS-K ด้วยโดรนในจังหวัด Nangarhar ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน เพื่อตอบโต้กลุ่ม ISIS-K ที่ก่อเหตุระเบิดบริเวณสนามบินในกรุง Kabul ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 170 ราย โดยมีทหารสหรัฐฯ เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย บาดเจ็บอีก 18 ราย ล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐฯ Joe Biden แถลงว่าสนามบินในกรุง Kabul อาจถูกโจมตีอีกครั้งก่อนการอพยพจะสิ้นสุดลง 31 ส.ค. 64

Related Articles

Stay Connected

0FansLike
3,912FollowersFollow
22,200SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles