วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ยกระดับประสบการณ์การเดินทางด้วยรถยนต์ Volvo Recharge Plug-in Hybrid โฉมใหม่ล่าสุด ที่ไม่เพียงให้ระยะการขับขี่ด้วยพลังแบตเตอร์รี่ที่ไกลขึ้น แต่ยังมอบความสะดวกสบายให้การควบคุมรถและความสุนทรีย์ตลอดการเดินทางด้วย iCUP ระบบเชื่อมต่อและมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิงใหม่ล่าสุด และแอปพลิเคชัน Volvo Car app ที่ออกแบบมาเพื่อมอบความอิสระและความอุ่นใจในการควบคุมรถยนต์วอลโว่รุ่นใหม่ล่าสุด
อัตลักษณ์ด้านดีไซน์ที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณได้ดียิ่งกว่าเดิม
เพิ่มความลงตัวทางด้านดีไซน์ภายนอกให้ดูโฉบเฉี่ยวและทันสมัยมากยิ่งขึ้นด้วยตราสัญลักษณ์วอลโว่ที่ด้านหน้ารถยนต์ รีชาร์จ ปลั๊กอินไฮบริด รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งถูกออกแบบให้นูนขึ้นในแบบ 3 มิติ, กันชนหน้าและกันชนท้ายมีลูกเล่นสะดุดตามากขึ้นพร้อมเก็บรายละเอียดของท่อไอเสียให้เนียนไปกับด้านท้ายของตัวรถ, ล้อขนาด 19 นิ้ว แบบ 5 ก้าน ดีไซน์ Triple Spoke Black Diamond Cut เสริมบุคลิกให้รถรุ่น Volvo S60 Recharge T8 Plug-in Hybrid และ Volvo V60 Recharge T8 Plug-in Hybrid ดูทรงพลัง และสำหรับในรุ่น Volvo XC40 Recharge T5 Plug-in Hybrid นอกจากจะได้รับการรีเฟรชดีไซน์ที่คล้ายคลึงกันแล้ว ยังได้มีการเปลี่ยนโฉมไฟหน้าให้เป็นแบบ T-shaped พร้อมเสริมประสิทธิภาพให้การตรวจจับเท้าเตะเพื่อเปิด/ปิดฝากระโปรงหลังทำได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยเซ็นเซอร์ที่มีรัศมีกว้างขึ้น ทั้งมอบความพิเศษกว่าเดิมด้วยสีใหม่ล่าสุด Bright Dusk
ยกระดับการเดินทางด้วยดีไซน์และความสุนทรีย์ในห้องโดยสาร
ให้ประสบการณ์ในทุกการเดินทางด้วยรถยนต์วอลโว่ รีชาร์จ ปลั๊กอินไฮบริด เป็นทริปแห่งความทรงจำด้วยการออกแบบภายในห้องโดยสารที่ปรับโฉมใหม่ อาทิ ชิ้นส่วนตกแต่งลาย Topography ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากภูมิทัศน์ของเทือกเขาในประเทศสวีเดน ในห้องโดยสารสี Charcoal ของรถยนต์ Volvo XC40 Recharge Ultimate T5 Plug-in Hybrid คันเกียร์คริสตัลโดย Orrefors® เพิ่มสัมผัสที่พรีเมียมยิ่งขึ้นในรถยนต์ Volvo S60 Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid Dark และ Volvo XC60 Recharge Ultimate T8 Plug-in Hybrid Dark
นอกจากนี้ รถยนต์วอลโว่ ปลั๊กอินไฮบริด รุ่นใหม่ ยังได้มีการติดตั้ง iCUP (Infotainment and Connectivity Unit Program) ระบบเชื่อมต่อและมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิง อำนวยความสะดวกให้การใช้งาน Google Maps, Google Assistance และ Google Play ทำได้ผ่านหน้าจอแบบทัชสกรีนในรถ หรือจะใช้งานแอปพลิเคชัน Volvo Car app เพื่อควบคุมรถจากระยะไกลเพื่อสั่งให้ล็อกและปลดล็อก ปรับอุณหภูมิห้องโดยสารล่วงหน้า เช็คสถานะการชาร์จและปริมาณแบตเตอรี่ และอัปเดตโปรแกรมของรถโดยอัตโนมัติผ่านทางดาวเทียม (Over-the-air update)
ความปลอดภัยอันเป็นเอกลักษณ์
ความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสารคือเรื่องที่วอลโว่ให้ความสำคัญเสมอมา รถยนต์วอลโว่ รีชาร์จ ปลั๊กอินไฮบริด ที่มาพร้อมระบบ iCUP ยังมีตัวช่วยด้านความปลอดภัยทั้งเพื่อการปกป้องและป้องกันผ่านระบบ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ซึ่งรวมถึง ระบบ Blind Spot Information System (BLIS) ให้การเตือนในขณะเปลี่ยนเลน, ระบบ Adaptive Cruise Control with Queue Assist ช่วยคุณรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้าด้วยการปรับความเร็วของรถ, ระบบ Lane Keeping Aid รักษาตำแหน่งรถให้อยู่ตรงกลางเลน, ระบบ Collision Avoidance & Mitigation Support with Auto Brake ตรวจจับและแก้ไขการไถลลื่นเพื่อดึงรถกลับมาสู่ตำแหน่งบนถนนที่ปลอดภัยกว่าได้* หลีกหลีกเลี่ยงการชนและทำการเบรกอัตโนมัติหากผู้ขับไม่สามารถตอบสนองได้**, ช่วยหยุดรถได้อย่างสมบูรณ์แบบในภาวะที่ผู้ขับขี่ไม่มีการตอบสนอง, การแจ้งเตือน Cross Traffic Alert พร้อมระบบเบรกอัตโนมัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ในขณะถอยรถในมุมมองที่จำกัด โดยระบบสามารถตรวจจับยานพาหนะที่ตัดผ่านมาทางด้านหลัง และเบรกอัตโนมัติหากจำเป็น***
นอกเหนือจากความปลอดภัยจากอุบัติเหตุและกรณีฉุกเฉินแล้ว วอลโว่ยังคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพของผู้ใช้รถ โดยรถยนต์วอลโว่ รีชาร์จ ปลั๊กอินไฮบริด รุ่นใหม่ มาพร้อมเครื่องฟอกอากาศในระบบควบคุมคุณภาพอากาศที่ป้องกันไม่ให้ฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นอันตรายผ่านเข้ามาในห้องโดยสารได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ให้คุณภาพอากาศที่ดีกว่าไม่ว่าสภาพอากาศภายนอกจะเป็นอย่างไร
พบกับรถยนต์วอลโว่รุ่น รีชาร์จ ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า ได้ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 บูธ A08 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่าง 1-12 ธันวาคม 2565 หรือทดลองขับได้แล้ววันนี้ที่ศูนย์บริการรถยนต์วอลโว่ทั่วประเทศ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารกิจกรรมล่าสุดของบริษัทฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.volvocars.com/th เยี่ยมชม วอลโว่ แบรนด์ เอ็กซ์พิเรี่ยน เซ็นเตอร์ แห่งแรกในประเทศไทย Volvo Studio Bangkok ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม หรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และรายชื่อศูนย์บริการวอลโว่ ที่ศูนย์บริการลูกค้า โทร 02-161-4144
หมายเหตุ
* ฟังก์ชันช่วยเหลือคนขับไม่สามารถใช้แทนความระมัดระวังและการตัดสินใจของคนขับได้ การช่วยบังคับพวงมาลัยจะทำงานที่ความเร็วระหว่าง 60-140 กม./ชม.
** สามารถตรวจจับยานพาหนะ คนเดินถนน และนักปั่นจักรยาน ซึ่งเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกันของรถได้ ภายในความเร็วที่กำหนดและในบางสถานการณ์ ระบบตรวจจับขึ้นอยู่กับแสงที่ส่องสว่างบนวัตถุนั้น และไฟหน้าและไฟท้ายของรถต้องทำงานเมื่ออยู่ในที่มืด ผู้ขับยังคงต้องรับผิดชอบในการขับขี่อย่างปลอดภัยตลอดเวลา
***ฟังก์ชันช่วยเหลือคนขับไม่สามารถใช้แทนความระมัดระวังและการตัดสินใจของคนขับได้ Cross Traffic Alert อาจทำงานได้อย่างจำกัดในบางสถานการณ์ ระบบช่วยเบรกจะทำงานในความเร็วต่ำเท่านั้น