นิสสัน ออโต้ แกลเลอรี่ บี มอร์ ได้รับรางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมระดับประเทศ ประจำปี 2563 หรือ รางวัล Best of the Best Award 2020 โดยนิสสัน ประเทศไทย จากมาตรฐานการดำเนินงานและพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่องทั้งด้านการขาย การให้บริการ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าประทับใจจากการใช้รถยนต์นิสสัน ซึ่งทำให้ลูกค้านิสสันวางใจทั้งคุณภาพของรถยนต์ และการให้บริการ โดยได้รับคะแนนรวมสูงสุด ได้แก่ การบรรลุเป้าหมายการขาย การบรรลุเป้าหมายการสั่งซื้ออะไหล่ ตัวชี้วัดความพึงพอใจของลูกค้า และยอดเช่าซื้อสินเชื่อรถยนต์กับนิสสัน ลีสซิ่ง ประเทศไทย
นายอิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย ยืนยันถึงความเป็นเลิศของผู้จำหน่ายเจ้าของรางวัลผู้จำหน่ายยอดเยี่ยมในปีล่าสุดว่า “ทางนิสสันมีความภูมิใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งกับนิสสัน ออโต้ แกลเลอรี่ บี มอร์ ที่ได้รับรางวัลในปีที่ผ่านมา ด้วยความมุ่งมั่นของผู้จำหน่าย และทีมงานทุกคนที่ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ความพึงพอใจ และประสบการณ์ในการใช้รถยนต์นิสสัน เป็นเรื่องที่ผมให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเลือกนำเสนอรถยนต์ที่ต้องคุ้มค่า และตรงกับความต้องการของลูกค้า นิสสัน ประเทศไทย กำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้จำหน่าย ซึ่งผมมีหลักการในการทำงานร่วมกัน คือ การทำงานด้วยความโปร่งใส่ (Transparency) ไว้ใจซึ่งกันและกัน (Trust) และทำงานร่วมกันเป็นทีม (Teamwork)
ปีนี้เป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยว ที่นิสสันจะเดินหน้าไปพร้อมกับผู้จำหน่าย 178 แห่งทั่วประเทศ เพื่อมอบประสบการณ์ ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าของนิสสันทุกคน โดยนำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน มาปรับพัฒนาระบบงานผู้จำหน่ายเพื่อตอบสนองต่อความต้องการลูกค้าให้ตรงจุด และรวดเร็ว เพราะลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงโชว์รูม และศูนย์บริการ การฝึกอบรม การพัฒนาทักษะการขาย และการให้บริการหลังการขาย ตามแผนกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโต และผลกำไรอย่างยั่งยืน
นิสสัน ออโต้ แกลเลอรี่ บี มอร์ มีประสบการณ์ในธุรกิจยานยนต์มากกว่า 20 ปี โดยมี นายธรรมรัตน์ โพธิ์ใบกุล กรรมการผู้จัดการ นิสสัน ออโต้ แกลเลอรี่ บี มอร์ เป็นผู้นำองค์กรสู่ความสำเร็จจนถึงปัจจุบัน และอธิบายถึงกลยุทธ์ความสำเร็จในฐานะผู้จำหน่ายยอดเยี่ยม ประจำปี 2563 ว่า “ผมต้องขอบคุณพนักงานออโต้ แกลเลอรี่ บี มอร์ สำหรับความสำเร็จระดับประเทศในครั้งนี้ เพราะพนักงานทุกคนเข้าถึงหัวใจในการเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ก็คือ การบริการที่ดี ซึ่งเครื่องจักรไม่สามารถทำแทนได้”
“ผมต้องมั่นใจว่าพนักงานมีความสุขในการทำงาน แล้วพวกเขาจึงจะสามารถถ่ายทอดความสุขนั้นผ่านงานบริการไปถึงลูกค้าได้ ซึ่งสิ่งสำคัญคือ วิธีคิดที่ผม และพนักงานทำงานด้วยกันอย่างใกล้ชิดเพื่อทำให้ทุกคนคิดเหมือนกันเสมอว่า รถของลูกค้าก็เหมือนรถของเรา แต่ในขณะเดียวกันผมต้องให้โอกาสพนักงานได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา และให้คำแนะนำกลับสู่บริษัทฯ การทำงานด้วยกัน แบ่งปันปัญหาการทำงาน หรือเสนอวิธีการใหม่ ๆ รวมไปถึงฝึกการเป็นนักฟังที่ดี ที่ต้องฟังด้วยหัวใจ และฟังอย่างตั้งใจ ทั้งที่เป็นข้อเท็จจริง รวมถึงความคิดเห็นทั้งของลูกค้า และเพื่อนร่วมงาน สิ่งเหล่านี้จะช่วยพัฒนาการทำงาน และจะสะท้อนลงไปถึงการทำงานเพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าของนิสสัน ออโต้ แกลเลอรี่ บี มอร์”
นิสสัน ออโต้ แกลเลอรี่ บี มอร์ มีสาขาในพื้นที่กรุงเทพฯ และภาคกลางตอนล่าง รวม 7 สาขา แต่ประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับไม่ว่าจะใช้บริการที่ไหนก็ตามจะเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของนิสสันก็เปลี่ยนไปจากเดิม ด้วยแผนการสร้างแบรนด์ของนิสสันให้แข็งแรง ซึ่งผู้จำหน่าย และนิสสัน ประเทศไทย กำลังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และเมื่อกลุ่มลูกค้าเปลี่ยนไปจากเดิม วิธีการทำงาน และการดูแลเข้าถึงลูกค้าเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องปรับตัวตาม ตั้งแต่การให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และจัดกิจกรรมการตลาดบนออนไลน์มากขึ้น
“พนักงานนิสสัน ออโต้ แกลเลอรี่ บี มอร์ ไม่ได้ทำหน้าที่แค่ขายรถ แต่ต้องทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีกับลูกค้าด้วย ซึ่งผมเชื่อว่าการตลาดแบบบอกต่อเป็นหนึ่งในการช่วยการขายที่ดีอย่างหนึ่ง ผมจึงไม่เคยละเลยการดูแลลูกค้าเก่า ๆ” นายธรรมรัตน์ กล่าวเสริม