ครูว์ : เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2566 ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจกว่า 216 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 27% โดยบริษัทฯ มีรายได้ 882 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 9% จากรายได้ 813 ล้านยูโรในไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา
ตัวเลขดังกล่าวเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากประสบความสำเร็จในปี 2565 ด้วยผลกำไร 708 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นเกือบ 1 พันล้านยูโรเมื่อเทียบกับปี 2561 ซึ่งผลประกอบการที่โดดเด่นนี้สะท้อนการเพิ่มขึ้นของกำไร 319 ล้านยูโรจากปี 2564
สำหรับกำไรในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นจาก 20.9% ในปี 2022 เป็น 24.4% สืบเนื่องมาจากความต้องการในการออกแบบเฉพาะตัวที่เพิ่มมากขึ้น รถยนต์รุ่นย่อยที่มีคุณสมบัติสูงขึ้น และการเพิ่มตัวเลือกการออกแบบที่มีมากขึ้น รวมถึงการขายรถยนต์รุ่นมูลินเนอร์ และรุ่นลิมิเต็ด เอดิชัน
ตัวเลขในไตรมาสแรกยังสะท้อนถึงการเติบโตที่มั่นคงของยอดขายทั่วโลก เพิ่มขึ้น 3,517 คัน คิดเป็น 10% โดยภูมิภาคอเมริกายังคงครองแชมป์ด้วยยอดขาย 1,157 คัน เพิ่มขึ้น 39% จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565 ในขณะที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมียอดเพิ่มขึ้น 11% และตะวันออกกลางมียอดเพิ่มขึ้น 66% ตอกย้ำภูมิภาคที่มีศักยภาพสูงที่สุด
ตัวเลขล่าสุดและความต้องการรถยนต์รุ่นใหม่ ทำให้เบนท์ลีย์สามารถลงทุนในกลยุทธ์ Beyond100 ได้อย่างเต็มที่เพื่อมุ่งสู่ความเป็นผู้ผลิตอัครยนตรกรรมที่ยั่งยืนในอนาคต ซึ่งรวมถึงการลงทุนมูลค่ากว่า 3 พันล้านยูโรในโรงงานเมืองครูว์ และการเปิดตัวอัครยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 5 รุ่นใหม่ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี โดยจะเริ่มเปิดตัวรุ่นแรกภายในปี 2569