บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ประกาศราคาอย่างเป็นทางการของสมาชิกใหม่รุ่นที่สองแห่งตระกูล XM กับบีเอ็มดับเบิลยู New BMW XM 50e และ BMW XM 50e (Shadow Line) ที่ยังคงรูปลักษณ์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ความสะดวกสบายอันหรูหรา และขุมพลังที่เหนือกว่า ตามแบบฉบับซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล XM โดย BMW XM 50e มีราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยอยู่ที่ 6,799,000 บาท และ BMW XM 50e รุ่น (Shadow Line) มีราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยอยู่ที่ 6,999,000 บาท ทั้งนี้ New BMW XM 50e มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดอันทรงพลัง ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทคโนโลยี M TwinPower Turbo มอบไดนามิกสุดเร้าใจพร้อมกับสมรรถนะอันน่าทึ่ง รถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ Sports Activity Vehicle สายพันธุ์ M รุ่นนี้ จะสามารถมอบความเร้าใจที่เป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมตัวเลือกเพิ่มเติมกับออปชันเสริมสามารถปรับแต่งได้หลากหลายให้ตรงตามความต้องการลูกค้าอีกด้วย สามารถจองได้ทาง https://shop.bmw.co.th/ ตั้งแต่ 16 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป
New BMW XM 50e ราคา 6,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)
New XM 50e (Shadow Line) ราคา 6,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)
รูปลักษณ์ภายนอกบ่งบอกถึงความพิเศษ ตัวตนที่โดดเด่น สมรรถนะที่ไม่เหมือนใคร เช่นเดียวกับรถตระกูล XM รุ่นก่อนหน้า ด้วยการผสมผสานความเป็นรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ หรือ Sport Activity Vehicle (SAV) อันทันสมัย รูปลักษณ์ที่ทรงพลัง สัดส่วนไดนามิกที่แข็งแกร่ง การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์สไตล์ M และรูปโฉมหน้ารถที่ได้รับการออกแบบใหม่สำหรับรถยนต์ BMW ในกลุ่มลักชัวรี่ พร้อมองค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์อื่น ๆ ทำให้ New BMW XM 50e เปี่ยมไปด้วยออร่าแห่งความพิเศษและความชัดเจนในตัวตนที่ไม่ซ้ำใคร
การออกแบบในสไตล์ M ยังช่วยเน้นย้ำถึงความดุดันและความมั่นใจของดีไซน์รถยนต์รุ่นนี้ เสริมความโดดเด่นด้วยไฟหน้าสองชั้น และกระจังหน้าทรงไตคู่แบบ ‘Iconic Glow’ ที่มาพร้อมกรอบไฟส่องสว่างล้อมรอบกระจังหน้าทั้งคู่ ภายนอกของตัว Shadow Line เสริมความโดดเด่นด้วยด้วยวัสดุตกแต่งสีดำเงา แถบสีด้านข้างรถที่ชวนให้นึกถึง BMW M1 ยังช่วยยกระดับดีไซน์ด้านข้างของบอดี้ให้สะกดทุกสายตา
นอกจากนั้น การออกแบบของบีเอ็มดับเบิลยู XM ยังรวมเอาองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ชวนให้นึกถึงอดีต อาทิ โลโก้ BMW ที่สลักไว้ที่กระจกหลังและไฟท้าย รวมถึงชิ้นส่วนอื่น ๆ ในสีดำเงาและการตกแต่งรายละเอียดเส้นสายในสีดำดุดันช่วยขับให้บุคลิกของรถรุ่นนี้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น BMW XM 50e มาพร้อมล้ออัลลอย M ขนาด 22 นิ้ว ลาย Double Spoke แบบสลับสี ส่วนในรุ่น Shadow Line มาพร้อมล้ออัลลอย M ขนาด 23 นิ้ว ลาย Star Spoke แบบสลับสี
New BMW XM 50e พร้อมส่งมอบขุมพลังที่อัดแน่นตั้งแต่วินาทีแรกที่เหยียบคันเร่ง ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ เทคโนโลยี M TwinPower Turbo และระบบขับเคลื่อน M Hybrid ให้กําลังรวมสูงสุด 350 กิโลวัตต์ / 476 แรงม้า ที่แรงบิด 700 นิวตันเมตร ให้ได้สัมผัสถึงสมรรถนะการขับขี่อันทรงพลังตั้งแต่ออกตัว
โดยรถรุ่นนี้สามารถทำความเร็วตั้งแต่ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 5.1 วินาที นอกจากนี้ ปุ่ม M Hybrid ที่วางอยู่บริเวณคอนโซลกลางยังให้ผู้ขับสามารถเลือกโหมดการขับได้ถึงสามโหมด รวมถึงโหมด ELECTRIC สำหรับการขับขี่ด้วยไฟฟ้าโดยที่ไม่ปลดปล่อยมลพิษ มอบกำลังสูงสุดที่ 145 กิโลวัตต์ / 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 280 นิวตันเมตร ให้ความเร็วสูงสุดถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้พลังงานจากลิเธียม-ไอออนแบตเตอรี่ขนาด 29.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ติดตั้งอยู่ด้านใต้ท้องรถ โดยมีระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้า 101 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC เทคโนโลยี M xDrive ได้รับการออกแบบมาเพื่อรับประกันการส่งกำลังการขับขี่สู่ท้องถนนอย่างเต็มประสิทธิภาพ
เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่แบบไดนามิก นอกจากนี้ ช่วงล่าง Adaptive M Suspension Professional ยังให้การควบคุมแบบสปอร์ตโดยไม่กระทบต่อความสบายของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ระบบช่วยการขับขี่ รุ่น Professional พร้อมควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ยังมาพร้อมฟังก์ชั่น Stop&Go ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาความเร็วของรถในระดับที่ต้องการและคงระยะห่างจากรถคันหน้าให้สม่ำเสมอเท่านั้น แต่ยังช่วยให้รถยนต์อยู่ในเส้นทางอย่างคงที่ด้วยระบบบังคับพวงมาลัย และเพื่อความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus ยังช่วยให้การจอดรถและการบังคับรถทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ภายในห้องโดยสารยังแตกต่างด้วยดีไซน์อันโดดเด่น มอบความสะดวกสบายขั้นสุด ห้องโดยสารตกแต่งดีไซน์ M ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M และเข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M ให้ความรู้สึกสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวในการขับขี่ ผ้าบุหลังคายังเป็นเสมือนงานประติมากรรม 3 มิติ ลวดลายแบบปริซึมและเมื่อเปิดหลังคาก็จะพบกับหลอดไฟ LED กว่า 100 ดวงบนหลังคาที่ส่องสว่างอย่างงดงามยามค่ำคืน คอนโซลด้านบนยังบุด้วยหนังแบบ BMW Individual ทำให้การตกแต่งภายในสะดุดตาและหรูหราไปอีกขั้น
นอกจากนี้ ยังมีชุดไฟตกแต่งภายใน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน ระบบระบายอากาศและฟังก์ชันนวดผ่อนคลายสําหรับเบาะนั่งตอนหน้าที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานในรถยนต์รุ่นนี้ด้วย
New BMW XM 50e ยังได้รับการพัฒนาด้านระบบความบันเทิงและการสื่อสารให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้น ด้วยหน้าจอ BMW Head-up Display และระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฎิบัติการ BMW Operating System รุ่นใหม่ล่าสุด สามารถปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น ระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ IconicSounds Electric ให้เสียงขับที่กระตุ้นความตื่นเต้นแม้ในโหมดการขับขี่แบบไร้มลพิษ
คุณลักษณะเด่นอีกประการของรถยนต์รุ่นนี้คือ ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพาของตนกับรถยนต์แบบไร้สายผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังจะได้รับประโยชน์จาก Connected Package Professional ช่วยให้มั่นใจว่าจะได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและข้อมูลการจราจรอัปเดตล่าสุดเมื่ออยู่บนท้องถนน นอกจากนี้ BMW XM 50e ยังมาพร้อมระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon
ขณะที่ BMW XM 50e (Shadow Line) มาพร้อมกับระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins Diamond เพื่อส่งมอบสุนทรียะด้านความบันเทิงระดับไฮเอนด์ในระหว่างการขับขี่
BMW XM 50e และ New BMW XM 50e (Shadow Line) มาพร้อมสีภายนอกให้ลูกค้าได้เลือกถึง 6 สีได้แก่ Marina Bay Blue Metallic, Toronto Red Metallic, Isle of Man Green Metallic, Sao Paulo Yellow Solid, Black Sapphire Metallic, และ Mineral White Metallic และสามารถเลือกสีภายในได้ 2 สี ได้แก่ BMW Individual leather ‘Merino’ สีดำ หรือ Sakhir Orange
พบกับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BMW XM 50e และ New BMW XM 50e (Shadow Line) ได้ที่ www.bmw.co.th หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ BMW Thailand