25.7 C
Bangkok
Saturday, December 14, 2024
รถ​ Mitsubishi
163732
AD Banner_900x180
FORD900x192px_1
AD Banner_900x180
FORD900x192px_1
Honda_900x192px 2024
previous arrow
next arrow

Angelique Kerber เปิดใจ Porsche Taycan คือรางวัลสำหรับผู้ชนะ

สตุ๊ทการ์ท : หมายเลข 13 ดูเหมือนจะเป็นเลขนำโชคและเป็นตัวเลขสำคัญที่มีบทบาทต่อชีวิตของ Angelique Kerber สืบเนื่องมาจากในวันที่บรรดานักหวดลูกสักหลาดมือวางอันดับต้น ๆ ของโลก ตบเท้าเข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสในรายการ Porsche Tennis Grand Prix ที่ได้จัดขึ้นไปเมื่อ 16 – 24 เมษายน 2022 ที่ผ่านมา

โดยครั้งนี้ถือเป็นการปรากฏตัวครั้งที่ 13 ของเธอในฐานะนักแข่ง Porsche Brand Ambassador ซึ่งเธอเคยฉลองชัยชนะถึง 2 สมัยในสนาม Porsche Arena ณ เมืองสตุ๊ทการ์ทแห่งนี้ เมื่อปี 2015 และ ปี 2016 โดยครั้งนี้เธอให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการแข่งขันในทัวร์นาเม้นต์นี้ เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และเป็นรายการที่เหล่าบรรดานักกีฬาเทนนิสล้วนให้ความสำคัญและชื่นชอบเป็นอย่างมาก โดยครั้งนี้มีผู้เข้าแข่งขันที่เป็นมือวาง 10 อันดับแรกของโลก เข้าร่วมในรายการนี้มากถึง 9 ราย ถือเป็นอีกความน่าภาคภูมิใจของเธอที่ได้รับโอกาสในการคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ของเธอ และเธอได้แสดงความคิดเห็นถึงความน่ายินดีในครั้งนี้ออกมาด้วยความรู้สึกอันแสนพิเศษ

Angelique เพราะเหตุใด คุณและเพื่อนนักกีฬาของคุณ จึงชื่นชอบการแข่งขัน Porsche Tennis Grand Prix?

“พวกเรารักทัวร์นาเม้นต์นี้ สำหรับเรามันเทียบได้กับการที่ได้อยู่ในโอเอซิสสปาสุดหรูที่จะพาคุณไปพบกับโลกแห่งความสุขที่ผ่อนคลายในวิถีชีวิตประจำวันตลอดฤดูกาลแข่งขัน เราได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มันคือความรู้สึกที่พิเศษสุด เราได้รับการดูแลภายใต้มาตรฐานที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าคุณจะเป็นดารา หรือผู้เล่นที่มาจากรอบคัดเลือกก็ตาม นับตั้งแต่ฉันได้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งแรกในรอบคัดเลือกเมื่อปี 2005 ทำให้การแข่งขัน Porsche Tennis Grand Prix กลายเป็นส่วนหนึ่งในอาชีพนักกีฬาเทนนิสของฉันตลอดมา ฉันได้รับประสบการณ์เพิ่มขึ้นมากมายที่นี่ มันคือสิ่งที่ผลักดันให้ฉันก้าวต่อไปในสายอาชีพ แม้แต่ในวันที่พ่ายแพ้ฉันก็ยังได้เรียนรู้บางอย่าง และฉันเฝ้ารอคอยที่จะได้กลับมาเยือนเมืองสตุ๊ทการ์ทอีกครั้งอยู่เสมอ”

มันสำคัญกับคุณแค่ไหน สำหรับบรรดาผู้ชมการแข่งขันที่รอคอยต้อนรับคุณกลับมายัง Porsche Arena?

“สิ่งที่ฉันคิดถึงที่สุดตลอดทั้งปีที่ผ่านมา คือบรรยากาศที่เห็นแรงเชียร์จากเหล่าแฟนกีฬา และบรรยากาศการแข่งขันในสนามอันแสนพิเศษ และน่าอัศจรรย์ แม้ที่นั่งข้างสนามซึ่งมี จะมีอยู่เพียงไม่กี่ตัว อาจดูเป็นสิ่งปกติธรรมดาที่ไม่เหมือนรายการอื่น แต่มันทำให้ฉันมีแรงกระตุ้นอย่างสูงนั่นคือการได้ลงแข่งขันในคอร์ท และได้ทุ่มพลังเต็มพิกัด และฉันสัมผัสได้ถึงกำลังใจที่แฟน ๆ มอบให้ เสียงแรงเชียร์พร้อมกับชูนิ้วเพื่ออวยพรให้โชคดี มันคือสิ่งที่วิเศษและดีต่อใจอย่างมากในชีวิตนักกีฬาของฉัน”

ผู้แข่งขัน 9 คนมาจากมือวาง 10 อันดับแรกของโลก ทำให้ทัวร์นาเม้นต์นี้กลายเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด สิ่งนี้สร้างแรงกระตุ้นอะไรให้แก่คุณหรือไม่?

“แน่นอนที่สุด คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งคือแรงกระตุ้นที่ดีสำหรับฉัน ทำให้ฉันย้อนไปถึงความรู้สึกเมื่อวันที่ฉันคว้าแชมเปี้ยนในครั้งแรกด้วยการเอาชนะ Caroline Wozniacki นักเทนนิสหมายเลข 1 ของโลกในตอนนั้น ฉันตื่นเต้นมาก เรียกได้ว่านี่คืออีกหนึ่งทัวร์นาเม้นต์อันแสนท้าทายที่ฉันเฝ้ารอคอยจะได้เจอ เพราะฉันจะได้เจอกับนักแข่งระดับสูงสุดของโลกมากหน้าหลายตา ที่ผลัดเปลี่ยนกันเข้าร่วมรายการแข่งขันตลอดทั้งฤดูกาล”

ส่งที่ดีงามที่สุดสำหรับการคว้าแชมป์สองสมัยในการแข่งขัน Porsche Tennis Grand Prix คืออะไร?

“ความสำเร็จจากการโค่น Caroline ลงได้ คือสิ่งที่ยอดเยี่ยมสุด ๆ เท่าที่ฉันเคยพบเจอในสตุ๊ทการ์ท ทำให้จะไม่มีวันลืม     ชัยชนะครั้งแรกในทัวร์นาเม้นต์สุดพิเศษนี้ ซึ่งในรอบชิงชนะเลิศในวันนั้นคือความระทึกใจสำหรับฉันเป็นอย่างมาก เพราะฉันตามหลังอยู่ในเซทที่ 3 แต่ด้วยพลังเสียงเชียร์จากบรรดาแฟน ๆ ช่วยเป็นแรงใจทำให้ฉันสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้ และในปี 2016 ฉันมีโอกาสได้ลงแข่งขันกับ Laura Siegemund  ซึ่งเธอเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ผ่านเข้ามาจากรอบคัดเลือกและสามารถเข้ามาถึงรอบชิงได้นั้น ถือได้ว่าเธอเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว ประกอบกับฉันได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักกีฬาชื่อดังและแฟนๆก็คาดหวัง ทำให้ฉันต้องแบกรับแรงกดดันอันมหาศาล แต่ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่สำคัญในอาชีพนักกีฬาของฉันที่เกิดขึ้นในทัวร์นาเม้นต์นี้เช่นกัน”

คุณพลาดการแข่งขันหลายแมทซ์ในฤดูกาลนี้ แฟน ๆ พอจะมีความหวังกับแชมป์สมัยที่สามของคุณบ้างไหม?

“สำหรับฉัน ในเรื่องของการรักษาระดับในการเล่นให้อยู่ในมาตรฐานนั้นในแต่ละแมทซ์มีความสำคัญมากเพื่อโชว์ฟอร์มการเล่นให้ดีที่สุด และในฤดูกาลนี้นับเป็นเรื่องที่ยุ่งยากนิดหน่อย หลังจากที่ไวรัสโคโรน่าทำให้ฉันเสียโอกาส ฉันต้องเตรียมตัวและทำการฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อการคืนฟอร์มให้กลับมาปกติ เพื่อความหวังที่ว่าจะได้ลงเล่นในรายการที่สตุ๊ทการ์ทอีกครั้ง ฉันจะทุ่มเทพลังใจเมื่อลงสนาม และสร้างผลงานให้ดีที่สุด พร้อมกับกำลังใจที่จะได้รับจากแฟน ๆ เรามาคอยดูกันว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร และผลสุดท้ายฉันจะทำอะไรได้บ้าง”

อีกหนึ่งแรงกระตุ้นที่สำคัญ หนีไม่พ้นปอร์เช่ ไทคานน์ จีทีเอส (Taycan GTS) ในฐานะรางวัลสำหรับผู้ชนะ

“สำหรับผู้เล่นทุกคนล้วนต้องการชัยชนะเพื่อครอบครองรถยนต์ปอร์เช่ อย่างแน่นอนสำหรับพวกเราแล้วเปรียบเสมือนถ้วยรางวัลที่งดงามที่สุดในรายการ WTA ซึ่งในขณะที่เรนาลงเล่นอยู่ในเซ็นเตอร์คอร์ทนั้น เราจะได้เห็นรถปอร์เช่ ไทคานน์ จอดอยู่ตลอดทั้งสัปดาห์ของการแข่งขัน ไม่มีอะไรที่จะเป็นแรงกระตุ้นได้ดีกว่านี้อีกแล้ว”

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและอัตราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้รับการตรวจสอบตามมาตรฐานสากลที่สอดคล้องกับวิธีการ Light Vehicle Test Procedure (WLTP) ล่าสุด สำหรับค่าการตรวจวัดอัตราสิ้นเปลืองตามมาตรฐาน NEDC ที่ระบุในบทความนี้ ใช้อ้างอิงได้เฉพาะสภาพการทดสอบในช่วงเวลาเดียวเท่านั้น ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับค่าการตรวจวัดอัตราสิ้นเปลืองของ NEDC ที่ได้จากวิธีการอื่นใดก่อนหน้าการทดสอบนี้

ปอร์เช่ ไทคานน์ จีทีเอส (Taycan GTS) : ทดสอบตามมาตรฐาน NEDC: อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย 26.0 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กม.; อัตราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  เฉลี่ย 0 กรัมต่อ กม. ทดสอบตามมาตรฐาน WLTP: อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย 24.1 – 21.0 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กม.; อัตราปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์   เฉลี่ย 0 กรัมต่อ กม. ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าเฉลี่ย 424 – 504 กม.; ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าในเมือง 524 – 625 กม.

Related Articles

Stay Connected

0FansLike
3,912FollowersFollow
22,100SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles