29.9 C
Bangkok
Thursday, November 7, 2024
https://www.thaihonda.co.th/honda/
https://www.thaihonda.co.th/honda/
https://www.thaihonda.co.th/honda/
https://www.thaihonda.co.th/honda/
previous arrow
next arrow

เอก้า โมบิลิตี ผนึกมิตซุยและวีดีแอล กรุ๊ป ปั้นธุรกิจรับจ้างผลิตระดับโลกในอินเดีย

ปูเน่ อินเดีย : เอก้า โมบิลิตี (EKA Mobility) บริษัทยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีชั้นนำในอินเดีย มีความตื่นเต้นในการประกาศความร่วมมือกับมิตซุย แอนด์ โค (Mitsui & Co., Ltd.) จากญี่ปุ่น และวีดีแอล กรุ๊ป (VDL Groep) จากเนเธอร์แลนด์ โดยความร่วมมือทางกลยุทธ์ครั้งนี้ถือเป็นหลักชัยสำคัญในวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมยานยนต์อินเดีย เพื่อผลักดันอินเดียให้กลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่ยั่งยืนในระดับโลก ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อปั้นธุรกิจผู้รับจ้างผลิต (OEM) ระดับโลกที่ล้ำหน้าที่สุดในภูมิภาคนี้

การผนึกกำลังครั้งนี้เป็นความร่วมมือที่ใหญ่และสำคัญมากเป็นอันดับต้น ๆ ในภาคส่วนยานยนต์สมัยใหม่ในอินเดีย โดยนำจุดแข็งและความเชี่ยวชาญของกลุ่มบริษัทยานยนต์ชั้นนำ 3 แห่งในเอเชียและยุโรปมารวมกัน เพื่อเร่งพัฒนาและนำโซลูชันยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่มาใช้ทั่วโลก ความร่วมมือนี้เปิดโอกาสให้เอก้า โมบิลิตี ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องยานพาหนะไฟฟ้าที่ล้ำสมัยและระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ครอบคลุมนั้น ได้รับการลงทุนทางกลยุทธ์ครั้งสำคัญจากบริษัทการค้าและการลงทุนระดับโลกที่มีประวัติอันยาวนานในการร่วมสร้างนวัตกรรมภาคอุตสาหกรรมอย่างมิตซุย ตลอดจนการสนับสนุนทางเทคโนโลยีและความร่วมมือในด้านเงินทุนจากบริษัทเทคโนโลยีและการผลิตชั้นนำของเนเธอร์แลนด์อย่างวีดีแอล กรุ๊ป ซึ่งเมื่อนำความเชี่ยวชาญและทรัพยากรของทั้งสามฝ่ายมารวมกันแล้ว ก็จะกรุยทางไปสู่ยุคใหม่ของความเป็นเลิศด้านการขนส่งและการผลิตที่ยั่งยืน

ไฮไลต์สำคัญในความร่วมมือครั้งนี้

1.การลงทุนในทางกลยุทธ์: มิตซุย แอนด์ โค จะลงทุนทางการเงินครั้งใหญ่ในเอก้า โมบิลิตี ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ ยกระดับการดำเนินงานด้านการผลิต และขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้ นอกจากนี้ มิตซุยยังจะให้การสนับสนุนเอก้าในการส่งออกไปยังตลาดเกิดใหม่บางแห่ง รวมถึงจัดตั้งระบบและกระบวนการต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน

2.ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี: ในความร่วมมือนี้ วีดีแอล บัส แอนด์ โค้ช (VDL Bus & Coach) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือวีดีแอล กรุ๊ป และผู้นำในแวดวงรถโดยสารและรถโค้ชไฟฟ้าของยุโรป จะสนับสนุนเอก้า โมบิลิตี โดยถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อผลิตรถโดยสารไฟฟ้าในอินเดียให้กับตลาดอินเดีย

3.ส่งเสริมยุทธศาสตร์เมค อิน อินเดีย : ความร่วมมือครั้งนี้สอดรับกับยุทธศาสตร์เมค อิน อินเดีย (Make in India) ของรัฐบาลอินเดียอย่างเหนียวแน่น โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการผลิตและการสร้างงานในท้องถิ่น

4.ความยั่งยืน: ความร่วมมือนี้สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืนและโซลูชันการคมนาคมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ดร.สุธีร์ เมธา (Sudhir Mehta) ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริษัทเอก้า โมบิลิตี ได้แสดงมุมมองเกี่ยวกับความร่วมมือครั้งนี้ว่า “ความร่วมมือกับมิตซุยและวีดีแอล กรุ๊ป ถือเป็นก้าวสำคัญในการทำให้อินเดียเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก เราภูมิใจที่ได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรที่โดดเด่นซึ่งมีวิสัยทัศน์เช่นเดียวกับเรา เพื่อมอบการขนส่งที่ยั่งยืน ทำกำไร และมีประสิทธิภาพ”

โนบุโยชิ อุเมซาว่า (Nobuyoshi Umezawa) ผู้จัดการทั่วไปประจำแผนกธุรกิจการขนส่ง มิตซุย แอนด์ โค อินเดีย กล่าวว่า “เราหวังว่าความร่วมมือระหว่างเอก้า วีดีแอล และมิตซุย จะเข้ามาสนับสนุนยุทธศาสตร์เมค อิน อินเดีย โดยอาศัยความเป็นเลิศทางวิศวกรรมและเครือข่ายท้องถิ่นของเอก้า ประกอบกับขีดความสามารถทางเทคโนโลยีอันล้ำหน้าของวีดีแอล นอกจากนี้ เรายังหวังใช้เครือข่ายระดับโลกของมิตซุย เพื่อส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์ระดับแถวหน้าของเอก้าไปยังตลาดต่างประเทศ และมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

รอล์ฟ-ยัน ซวีป (Rolf-Jan Zweep) ซีอีโอของวีดีแอล บัส แอนด์ โค้ช กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับเอก้า โมบิลิตี และมิตซุย แม้โดยพื้นฐานแล้ว ความสามารถด้านการพัฒนาและการผลิตคุณภาพสูงของเราจะอยู่ในยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือ แต่เราก็มองเห็นโอกาสมากมายในอินเดีย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นตลาดที่มีแววเติบโตดี เราคาดว่าความร่วมมือนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์จากการทำงานร่วมกันมากมายในด้านการจัดซื้อและการพัฒนา”

เอก้า โมบิลิตี เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถเชิงพาณิชย์ที่ได้รับการอนุมัติในโครงการผู้รับจ้างผลิตดีเด่น (Champion OEM Scheme) และโครงการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า ตามนโยบายจูงใจการผลิตภาคยานยนต์ (Auto PLI) ของรัฐบาลอินเดีย โดยเอก้าเป็นบริษัทอินเดียเพียงแห่งเดียวที่นำเสนอการออกแบบ การผลิต และเทคโนโลยียานยนต์พลังงานใหม่แบบครบวงจรได้ตั้งแต่แรกเริ่มในอินเดีย บริษัทฯ ได้จัดตั้งศูนย์วิจัย การพัฒนา วิศวกรรม และนวัตกรรมล้ำสมัยในเมืองปูเน่ รัฐมหาราษฏระ และมียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อรถโดยสารไฟฟ้ามากกว่า 500 คัน และรถบรรทุกขนาดเล็กที่ใช้พลังงานไฟฟ้าอีกกว่า 5,000 คัน ยานพาหนะทั้งหมดเหล่านี้จะออกแบบและผลิตในอินเดียทั้งหมด ที่โรงงานผลิตอันทันสมัยของเอก้าในรัฐมัธยประเทศและมหาราษฏระ ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมานี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวรถบัสพลังงานไฟฟ้าแบบวิ่งในเมือง รถรับ-ส่งพนักงานและรถโรงเรียน รถบัสไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนขนาด 9 เมตร และขณะนี้ก็เตรียมบุกวงการขนส่งสินค้าระยะสุดท้าย (last mile) ด้วยกลุ่มรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กที่ออกแบบและปรับแต่งตามความต้องการ เพื่อรองรับลูกค้าและธุรกิจในอินเดีย

Related Articles

Stay Connected

0FansLike
3,912FollowersFollow
22,100SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles