เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์รังสรรค์อัครยนตรกรรมประกอบโดยช่างฝีมือและสั่งทำพิเศษของแต่ละรุ่นสำหรับลูกค้ารายแรกเสร็จสิ้นแล้ว อัครยนตรกรรมแต่ละคันเป็นคันแรกในจำนวน 12 คันของแต่ละรุ่น โดยบาคาลาร์คันแรกถือเป็นผลงานการออกแบบตัวถังของอัครยนตรกรรมสปอร์ตแบบเปิดประทุนรุ่นใหม่ของเบนท์ลีย์ มูลินเนอร์สำหรับการส่งมอบให้ลูกค้ารายแรก ในขณะที่อัครยนตรกรรมโบล์เวอร์ถูกรังสรรค์ทางวิศวกรรมอย่างละเอียดขึ้นมาใหม่จากเซอร์ เฮนรี่ ทิม เบอร์กิน (Sir Henry ‘Tim’ Birkin) ในช่วงปี พ.ศ.2472 ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 4½ ลิตร ถือเป็นอัครยนตรกรรมสำหรับลูกค้ารายแรกก่อนช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
อัครยนตรกรรมของลูกค้ารายแรกได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางวิศวกรรม ซึ่งรู้จักกันในนามว่า “Car Zeroes” ซึ่งอัครยนตรกรรมแต่ละคันได้ผ่านการทดสอบด้านความทนทาน สมรรถนะ และการทดสอบในสภาพอากาศของสถานที่ต่างๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้รับการรับรองทางวิศวกรรม โดยทั้งสองโครงการได้ประสบความสำเร็จและผ่านการทดสอบเพื่อการผลิตสำหรับลูกค้าในเชิงพาณิชย์
พอล วิลเลียมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายมูลินเนอร์และมอเตอร์สปอร์ต เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยว่า “การได้เห็นสองอัครยนตรกรรมชุดแรกประกอบเสร็จสิ้น ทำให้ทั้งทีมรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก หลายปีของการทำงาน เราได้ทุ่มเทให้กับการออกแบบและพัฒนาโครงการเหล่านี้ และการได้เห็นความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด อัครยนตรกรรมเหล่านี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ และยังได้รับการประกอบขึ้นด้วยมาตรฐานคุณภาพเดียวกันกับอัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์รุ่นอื่นๆ เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์คือผู้รังสรรค์อัครยนตรกรรมแห่งเดียวในโลกที่สามารถส่งมอบอัครยนตรกรรมแกรนด์ ทัวเรอร์แห่งศตวรรษที่ 21 และอัครยนตรกรรมในตำนานแห่งปี พ.ศ. 2472 ที่รังสรรค์ขึ้นมาใหม่ในเวลาเดียวกันได้
“ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ลูกค้าเราจะได้รับการส่งมอบรถใหม่ และได้เห็นอัครยนตรกรรมทั้งสองรุ่นที่เหลือในสายการผลิตกำลังจะได้รับการส่งมอบ โดยอัครยนตรกรรมทั้งสองรุ่นนี้ยังชูความโดดเด่นในความเป็นมูลินเนอร์ และความเป็นผลงานรุ่นแรกจากแผนกมูลินเนอร์ คลาสสิก และ แผนกการออกแบบตัวถัง และเรายังจะมีผลงานออกมาอีกมาก ซึ่งนี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น”
อัครยนตรกรรมทั้งสองรุ่นจำกัดจำนวนการผลิตเพียง 12 คันต่อรุ่นเท่านั้น โดยอัครยนตรกรรมแต่ละคันมีรายละเอียดที่บ่งบอกความเป็นเจ้าของ ซึ่งถือเป็นการออกแบบพิเศษทั้งหมดสำหรับผู้ครอบครองที่จะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
เนื่องจากเงื่อนไขด้านความเป็นส่วนตัวและการปกปิดข้อมูลของลูกค้า ทางเบนท์ลีย์จึงไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของลูกค้าหรือสถานที่ส่งมอบรถได้ อย่างไรก็ตาม ลูกค้าแต่ละรายต่างก็มีความหลงใหลในการขับขี่ ควบคู่ไปกับความชื่นชอบในงานฝีมือ ความดั้งเดิม และความใส่ใจในรายละเอียด ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับเบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ทั้งสิ้น
โบล์เวอร์คันแรก
อัครยนตรกรรม โบล์เวอร์ คอนตินิวชัน ซีรีส์ คันแรก คือ ต้นแบบที่งดงามของการออกแบบอันคลาสสิก ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตัวถังถูกตกแต่งด้วยหนัง Rexine และเฉดสีเขียว Birkin Green เป็นเฉดสีที่ผลิตขึ้นเฉพาะ ด้วยการจำลองเฉดสีรุ่นโบล์เวอร์ดั้งเดิมของ Team Car No.2 ทะเบียน UU 5872 โบล์เวอร์นั้นเป็นของ เซอร์ ทิม เบอร์กิน และเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส และยังคงวิ่งทดสอบทุกสัปดาห์ โบล์เวอร์คันแรกจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการรังสรรค์รุ่นคอนตินิวชัน ซีรีส์ในปัจจุบัน โดยมีตัวถังเฉดสีเขียว Birkin Green เสริมด้วยล้อที่มีเฉดสีโดดเด่น พร้อมกับหนังที่มีเฉดสีเข้ากันกับการตกแต่งภายใน และหลังคาพับได้เฉดสีดำ
ในเชิงเครื่องยนต์กลไก ตัวถังออกแบบมาเหมือนกับรุ่นดั้งเดิมของเบอร์กิน ยกเว้นคุณสมบัติสำคัญด้านความปลอดภัยสองประการ คือ ปั้มเชื้อเพลิงไฟฟ้าที่ทันสมัย และแผ่นกั้นโฟมที่ถังเชื้อเพลิง นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มไดนาโม ซึ่งเป็นทางเลือกที่ปรับปรุงใหม่ให้กับไดนาโมแบบเดิมเพื่อช่วยเสริมระบบการชาร์จที่ทรงพลัง ขณะที่ยังคงรูปลักษณ์ของไดนาโมแบบดั้งเดิมไว้ เครื่องยนต์ที่ใช้ถือเป็นเครื่องยนต์ใหม่ของ ดับเบิลยู โอ เบนท์ลีย์ เป็นเครื่องยนต์ขนาด 4½ ลิตร ประกอบด้วยลูกสูบอะลูมิเนียม เพลาลูกเบี้ยวเหนือหัวเครื่องยนต์ 4 กระบอกสูบ และหัวเทียนคู่ ส่วนที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าคือซุปเปอร์ชาร์จเจอร์อันเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้โบล์เวอร์เป็นที่รู้จัก เป็นรูปแบบที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2463 โดยวิศวกรชื่อดัง เมิร์สต์ วิลเยอร์ส (Amherst Villiers) และมีการทดสอบพละกำลังของเครื่องยนต์ที่มีอายุการออกแบบเกือบ 100 ปี โดยผลิตพละกำลังได้กว่า 240 แรงม้า
บาคาลาร์คันแรก
นอกจากอัครยนตรกรรมโบล์เวอร์แล้ว บาคาลาร์คันแรกก็เสร็จสิ้นการประกอบเช่นเดียวกัน การออกแบบบาคาลาร์ถือเป็นการใช้จินตนาการ ด้วยวัสดุ สีสัน และการตกแต่งทุกรายละเอียดของพื้นผิวภายในและภายนอกด้วยการออกแบบพิเศษ
ตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ตกแต่งเสร็จตามความต้องการของลูกค้าในเฉดสีเงินซาตินเหลือบสีแชมเปญที่เรียกกันว่า Atom Silver ตัวถังประกอบด้วยล้อบาคาลาร์ ขนาด 22 นิ้ว พร้อมผิวขัดมัน ซี่ล้อซาตินสีเทาเข้ม และไฮไลท์เฉดสีเขียวเงา Moss Green การเน้นเฉดสีเขียว Moss Green แบบเดียวกันนี้ใช้กับแถบกลางของกระจังหน้า ด้านในของไฟหน้า โครเมียมบนตัวถังส่วนบน และขอบสีดำเงาไปจนถึงด้านหลัง เฉดสีดำเงายังให้ความแตกต่างกับเสา A ตะแกรงตาข่ายและรอบข้าง ช่องระบายอากาศที่ฝากระโปรงหน้า ช่องระบายอากาศด้านข้าง ตังถังส่วนล่าง คิ้วตกแต่งกันชนด้านหลัง และคาลิปเปอร์เบรค ส่วนท้ายของรถประกอบด้วยปลายท่อไอเสียด้านนอกเฉดสีดำมันและด้านในเฉดสีเขียว Moss Green
การตกแต่งภายในของบาคาลาร์คันแรกเป็นไปตามเทรนด์สีดำและสีเขียว หนัง Beluga ตกแต่งด้วยเส้นสายเฉดสีเขียว Moss Green ที่ปีกของคอนโซล รอบนอกด้านหลังของเบาะโดยสาร และตลอดห้องโดยสารด้วยการเย็บแบบตัดกันผ่านรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของบาคาลาร์ เบาะโดยสารตรงกลางใช้หนัง Nappa ชั้นดี ขณะที่พรมปูด้วยหนัง Beluga ที่แกะสลักด้วยรูปเพชรเข้ากับการเย็บด้วยเฉดสีเขียว Moss Green
การรังสรรค์จากแผ่นไม้วีเนียร์อายุกว่า 5,000 ปี ด้วยเนื้อไม้แบบ Open Pore Riverwood บนแผ่นไม้อัดวีเนียร์เฉดสีดำ Gloss Black พร้อมรายละเอียดของเฉดสีทองแดงซาตินอันเป็นเอกลักษณ์ตลอดห้องโดยสารสู่ประตูห้องโดยสารและด้านหลังของเบาะโดยสารด้านหน้า โดยมีรายละเอียดของห้องโดยสารอันโดดเด่นดังต่อไปนี้
* เฉดสีทองแดงเคลือบบริเวณพวงมาลัย และพนักพิงศรีษะ ช่องระบายอากาศส่วนบน และขอบต่างๆ
* เฉดสีเงินซาตินเคลือบบริเวณหน้าปัดนาฬิกาและหน้าปัดของ Bentley Rotating Display
* อุปกรณ์ภายในเคลือบเฉดสีดำด้วยกระบวนการ Anodizing
* โลโก้เบนท์ลีย์ผลิตจากโครเมียม
* การตกแต่งด้วยเฉดสีดำเงาบริเวณตะแกรงลำโพง
* ช่องใส่ของบาคาลาร์แบบสั่งทำพิเศษที่พอดีกับด้านหลังของเบาะโดยสารด้านหน้า การตัดเย็บจากหนัง Beluga พร้อมการปักโลโก้ของเบนท์ลีย์ที่ตัดกัน และรูปแบบการปักเย็บในแบบบาคาลาร์ในเฉดสีเขียว Moss Green ตัดขอบด้วยหนัง Nappa และหนัง Beluga ชั้นดี
ปิดท้ายด้วยกุญแจจากบาคาลาร์คันแรกที่จะถูกนำเสนอให้กับลูกค้าในกล่องกุญแจแบบสั่งทำพิเศษที่หุ้มด้วยหนัง Beluga พร้อมด้วยการเย็บในเฉดสีเขียว Moss Green เพื่อให้เข้ากับตัวรถ ตัวกุญแจยังมีลักษณะเป็นเงาสีเขียว Moss Green ที่ด้านข้าง พร้อมผิวสัมผัสพิเศษลักษณะนูนในแบบของบาคาลาร์
อัครยนตรกรรมโบล์เวอร์และบาคาลาร์คันแรกกำลังจะเริ่มการส่งมอบให้กับลูกค้าในเร็วๆนี้ ในขณะที่ทีมงานเบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ยังคงเดินหน้าผลิตอัครยนตรกรรมอีกสามคันของทั้งสองรุ่น โดยแต่ละรุ่นจะมีความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับผู้ครอบครอง เหมือนดังสองคันแรกที่กำลังจะส่งมอบนี้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด โทร.0-2261-1050 หรือ LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V
