ไทยฮอนด้า ผู้นำวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย แถลงนโยบายมอเตอร์สปอร์ตประจำปี 2025 มุ่งสู่การสานต่อความสำเร็จหลังบรรลุเป้าหมายส่งนักแข่งไทยสู่โมโตจีพีได้ในปีนี้ วาง 3 แผนงานสำคัญ เริ่มจากแผนงาน “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” (Honda Race to The Dream) นำโดย “ก้อง สมเกียรติ จันทรา” สู้ศึก โมโตจีพี เต็มฤดูกาล และแผนงาน “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน” (Honda Race to The Champion) โดยมี “ชิพ-นครินทร์” นำทัพนักแข่งดาวรุ่งล่าแชมป์ Asia Road Racing Championship และแผนงานใหม่ HRT Junior Talent Program เพื่อพัฒนานักแข่งกลุ่มพิเศษอย่างเข้มข้นด้วยโปรแกรมเฉพาะ มุ่งต่อยอดสู่การเป็นนักแข่งระดับโลกรุ่นต่อไป ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อ 24 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา
มร.ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เผยว่า “มอเตอร์สปอร์ตในปีที่ผ่านมา เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและท้าทาย เราบรรลุเป้าหมายระยะยาวที่เคยประกาศไว้เมื่อหลายปีก่อน คือการพานักแข่งไทยไปโมโตจีพี แต่ทั้งหมดนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้น สิ่งต่อไปที่ไทยฮอนด้า ต้องทำคือการพัฒนานักบิดรุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์ขึ้นมาทดแทนอย่างต่อเนื่อง ด้วยโปรแกรมฝึกใหม่ที่เข้มข้นกว่าเดิม เพื่อต่อยอดความสำเร็จของพวกเขาได้อย่างเต็มที่ต่อไป ต้องขอขอบคุณท่านผู้สนับสนุน ผู้สื่อข่าว รวมถึงแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนด้วยดีเสมอมา”
สำหรับแผนงาน “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ที่มีเป้าหมายพานักบิดไทย ไปสร้างชื่อเสียงในระดับโลกนำโดย “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่เซ็นสัญญา 2 ปีกับสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ลงบิดในพรีเมียร์คลาส ด้วยรถแข่ง Honda RC213V หมายเลข 35 โดยจะจับคู่กับทีมเมทชาวฝรั่งเศสอย่าง โยฮันน์ ซาร์โก ขณะเดียวกัน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดหมายเลข 5 จาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ยังคงได้รับความไว้วางใจให้ไล่ล่าผลงานในศึก โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยจะยกระดับเป้าหมายคว้าท็อป 15 ของโลก
ในศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลกส่ง “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงษ์ วัย 19 ปี ขยับขึ้นไปลุยศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลก 2 รายการ ได้แก่ จูเนียร์ จีพี 2025 และ เรดบูล โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ 2025 ส่วนการแข่งขันรายการ อิเดมิตสึ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2025 จะมีนักบิดดาวรุ่งจาก ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ เข้าร่วมแข่งขัน 2 คนได้แก่ “ออสติน” ธนฉรรต ประทุมทอง และ “อุ้ม” นพรุธพงษ์ บุญประเวศ นอกจากนี้ จะยังคงเดินหน้าพัฒนาประสบการณ์ผ่านการแข่งขัน ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ 2025 และ โครงการ ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์ 2025 โดยมีเป้าหมายในการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และการพัฒนาอย่างถูกต้องในช่วงเริ่มต้นอาชีพนักบิด ภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอนระดับมืออาชีพ
ด้านแผนงาน “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ แชมเปี้ยน” ในปีนี้ไทยฮอนด้า มีการขยับตัวครั้งสำคัญ โดยจะมีนักบิดหลักในโร้ดแม็ปนี้ทั้งสิ้น 4 คน ลงไล่ล่าแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2025 นำโดย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีคนแรกของไทยที่จะควบรถแข่ง Honda CBR1000RR-R หมายเลข 41 ลุย ในรุ่น เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (ASB1000) ควบคู่กับรายการ MFJ SUPERBIKE ALL JAPAN ROAD RACE CHAMPIONSHIP 2025 ในรุ่น ST1000
ส่วน 2 ดาวรุ่งอย่าง “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว และ “ข้าวก้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร จะจับคู่บิดรถแข่ง Honda CBR600RR รวมถึง “ไฮเป๊ก” กฤษฎา ธนะโชติ ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS600)
ขณะที่ในคลาส เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี (AP250) กับรถแข่ง Honda CBR250RR ส่ง 2 นักบิดดาวรุ่ง “เฟอร์” ปัญจรุจน์ จิตวิรุฬห์ฉัตร จับคู่กับ “ชินโจ” ณภัทร จาตูม ซึ่งทั้งคู่จะแข่งขันในรายการ ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ 2025 ควบคู่กันไปด้วย พร้อมกับนักบิดอีก 3 คนในโครงการอย่าง “ออสติน” ธนฉรรต ประทุมทอง, “อุ้ม” นพรุธพงษ์ บุญประเวศ และ “ไบรท์” เตชินท์ อินทร์อภัย ซึ่ง 3 รายหลังจะลงในรายการ All Japan รุ่น J-GP3 และยังได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดแข่งขันใน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง หากผลงานเป็นไปตามเป้าหมายอีกด้วย
นอกจากนี้ ในศึกซูเปอร์ไบค์ชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2025 ยังส่ง “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว และ “ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร จับคู่ลงแข่งขันร่วมกับทีมอิสระของ ฮอนด้า เพื่อไล่ล่าแชมป์ประเทศไทย ภายใต้การนำทีมในฐานะผู้จัดการทีมของ “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อีกด้วย
สำหรับการแข่งขันทางฝุ่น ในศึกโมโตครอสชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ “เอฟ เอ็ม เอส ซี ที ไทยแลนด์โมโตครอส 2025” ส่ง 5 นักบิด ลงแข่งขันภายใต้ทีมอิสระ ประกอบด้วย กฤษฎา จำรูญจารีต สังกัดทีม Honda 17 พรนุภาพ เดิร์ทช็อป อิเดมิตสึ ดันล็อป , ภานุพงศ์ สมสวัสดิ์ สังกัดทีม Honda ส.จ.โก๋ DRTC IDEMITSU WRC Singha, จิรัฎฐ์ วรรณลักษณ์ สังกัดทีม Honda Racing Thailand Wannalak Motorsport และ ธนรัตน์ พานิชไทย พร้อมทีมเมท พัสกร ปริยวงศธร ภายใต้สังกัดทีม Honda Racing Thailand S Motor ลงชิงชัยโดยมีเป้าหมายคว้าแชมป์ประเทศไทย
ส่วนแผนงาน Junior Talent Program ซึ้งเป็นหลักสูตรพัฒนานักแข่งด้วยการฝึกอย่างเข้มข้น โดยพัฒนาต่อยอดจากหลักสูตรของ Honda Racing School ซึ่งเป็นต้นแบบการสร้างนักแข่งของฮอนด้าในระดับเอเชีย และ โอเชียเนีย โดยไทยฮอนด้าจะคัดเลือกนักแข่งดาวรุ่งที่มีทั้งพรสวรรค์และความสามารถ เข้าร่วมโปรแกรม โดยมีการพัฒนาอย่างเข้มข้นใน 5 ด้าน ประกอบด้วย การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย (Physical Strength) การเรียนรู้สไตล์การขับขี่ที่หลากหลาย (Adaptive Riding Skill) การฝึกฝน เพิ่มประสบการณ์การแข่งขัน (Riding Experience) การสร้างความอดทน ทั้งร่างกายและจิตใจ (Physical & Mental Endurance) และการเสริมสร้างวินัยในแบบนักกีฬาอาชีพ (Discipline) ในปี 2025 จะมีนักแข่งดาวรุ่งที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการพัฒนาทั้ง 5 ด้าน พร้อมกับลงแข่งขันในรายการสำคัญของเอเชีย เพื่อยกระดับขีดความสามารถสู่การเป็นนักแข่งระดับโลกต่อไป
Thai Honda Announces 2025 Motorsports Plans
“Kong-Somkiat” goes to MotoGP, ” Chip-Nakarin” fights in the ARRC ASB 1000 class Ready to accelerate the creation of new generation racers, The Next Successors, paving the way to the world level continuously
Thai Honda, the leader of Thai motorsport, announced its 2025 motorsport policy, aiming to continue its success after achieving its goal of sending Thai racers to MotoGP this year. It has set 3 important plans, starting with the “Honda Race to The Dream” plan, led by “Kong Somkiat Chantra” to compete in the MotoGP competition for a full season, and the “Honda Race to The Champion” plan, with “ Chip-Nakarin” leading a team of rising stars to hunt for the Asia Road Racing Championship , and the new HRT Junior Talent Program plan to intensively develop a special group of racers with a specific program, aiming to develop them into the next generation of world-class racers, at the Sports Authority of Thailand on January 24, 2025.
Mr. Yuichi Shimizu, President of Thai Honda Co., Ltd., revealed that “Last year’s motorsport was full of excitement and challenges. We achieved our long-term goal that we announced several years ago, which was to take Thai racers to MotoGP. But this is just the beginning. What Thai Honda must do next is to continuously develop new generations of talented riders to replace them with new and more intensive training programs to fully extend their success. I would like to thank our sponsors, reporters, and all motorsport fans for their continued support.”
For the “Honda Race to the Dream” plan, which aims to take Thai riders to build a reputation on the world stage, led by “Kong” Somkiat Chantra, the first Thai MotoGP rider in history to sign a 2-year contract with Idemitsu Honda LCR, to race in the premier class with the Honda RC 213 V racing bike number 35, where he will be paired with his French teammate, Johann Zarco. Meanwhile, “Kong” Thatchakorn Buasri, the number 5 rider from Honda Team Asia, is still trusted to chase results in the Moto3 World Championship for the second year in a row, and will raise the goal of reaching the top 15 in the world.
In the Rising Star World Championship, “Mai Cue” Kiatisuk Singhaphong, 19 years old, will move up to compete in 2 Rising Star World Championship events: Junior GP 2025 and Red Bull MotoGP Rookies Cup 2025. As for the Idemitsu Asia Talent Cup 2025, there will be 2 rising star riders from the Honda Thailand Talent Cup joining the competition, namely “Austin” Thanachart Prathumthong and “Um” Nopparatpong Boonprasert. In addition, he will continue to develop experience through the Honda Thailand Talent Cup 2025 and the Honda Academy Thailand 2025 project, with the goal of building a strong foundation and proper development during the early stages of his racing career under the supervision of professional trainers.
In terms of the “Honda Race to the Champion” plan, this year Thai Honda has made an important move by having 4 main riders in this roadmap chasing the Asian championship in the 2025 Asia Road Racing Championship, led by “Chip” Nakarin Athiratphuwaphat, the first former Thai Moto3 rider who will ride the Honda CBR 1000 RR-R racing bike number 41 in the 1,000 cc Asia Superbike ( ASB 1000) along with the MFJ SUPERBIKE ALL JAPAN ROAD RACE CHAMPIONSHIP 2025 in the ST 1000 model.
The two rising stars, “Mix” Thanat La-ongpliu and “Khaokong” Jakkreephat Phrutthisan, will pair up to race the Honda CBR 600 RR, along with “Hypek” Kritsada Thanachot in the Super Sport 600 cc (SS 600) class.
While in the Asia Production 250 cc ( AP 250) class with the Honda CBR 250 RR racing car , sending 2 rising star riders “Fer” Pancharuj Jitwirunchat to pair with “Shinjo” Naphat Chatum, both of whom will compete in the Honda Thailand Talent Cup 2025 together, along with 3 other riders in the project, “Austin” Thanachart Pratumthong , “Um” Noppharutphong Boonprasert and “Bright” Techin Inthaphai, the latter 3 will compete in the All Japan J -GP 3 and will also receive a wildcard to compete in Asia Road Racing if the results are as expected.
In addition, in the Thailand Superbike Championship, BRIC Superbike Championship 2025, “Mix” Thanat La-ongpliu and “Khaoklong” Jakkreephat Phruthisan will also pair up to compete with Honda’s independent team to chase the Thailand championship under the leadership of “Film” Ratthaphak Wilairot as team manager.
For the dirt race in the Thailand Motocross Championship, “FM SCT Thailand Motocross 2025”, 5 riders will compete under independent teams, consisting of Kritsada Jamroonjareet from the Honda 17 team, Pronupap Dirtshop Idemitsu Dunlop, Phanupong Somsawat from the Honda S.J. Ko DRTC IDEMITSU WRC Singha team, Jirat Wannalak from the Honda Racing Thailand Wannalak Motorsport team , and Thanarat Phanitthai with his teammate Pasakorn Pariyawongthorn from the Honda Racing Thailand S Motor team, competing with the goal of winning the Thailand championship.
The Junior Talent Program is a course to develop racers through intensive training. It is an extension of the curriculum of the Honda Racing School, which is a model for developing racers for Honda in Asia and Oceania. Thai Honda will select young racers who are both talented and capable to join the program. There will be intensive development in 5 areas: Physical Strength, Learning various riding styles (Adaptive Riding Skill), Training, and increasing racing experience (Riding Experience), Building physical and mental endurance (Physical & Mental Endurance), and Building discipline like a professional athlete (Discipline). In 2025, young racers who have been selected will receive development in all 5 areas and will compete in important Asian events to enhance their abilities to become world-class racers.
